สภาพอากาศประจำวันที่ 26 กย.63

 

สภาพอากาศประจำวันที่ 26 กย.63

ร่องมรสุมพัดผ่านภาเหนือและภาคตะวันตกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกน้อยในช่วงระยะปลายสัปดาห์นี้

บริเวณจังหวัดเชียงใหม่มีฝนร้อยละ 30  ของพื้นที่

ม.แม่โจ้ จัดพิธีลงนามอนุญาตให้ใช้สิทธิผลงานวิจัย และนำเสนอผลงานวิจัยเด่น พร้อมเปิดตัวพืชสายพันธุ์ใหม่ เตรียมต่อยอดงานวิจัยเชิงพาณิชย์

ม.แม่โจ้ จัดพิธีลงนามอนุญาตให้ใช้สิทธิผลงานวิจัย และนำเสนอผลงานวิจัยเด่น
พร้อมเปิดตัวพืชสายพันธุ์ใหม่ เตรียมต่อยอดงานวิจัยเชิงพาณิชย์
“Maejo Licensing and Pitching Day 2020”

 

 

 

วันศุกร์ที่ 25 กันยายน 2563ตั้งแต่ เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป อุทยานวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีการเกษตรและอาหาร (MAP) มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จัดให้มีพิธีลงนามอนุญาตให้ใช้สิทธิในผลงานวิจัยและนำเสนองานวิจัยเด่น “MJU Licensing and Pitching Day 2020” พร้อมเปิดตัวพืชสายพันธุ์ใหม่ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นประธานในพิธีเปิด และกล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมงาน ณ อาคารพัฒนาวิสัยทัศน์ ชั้น 2 มหาวิทยาลัยแม่โจ้

 

งานในครั้งนี้เพื่อให้เกิดการตื่นตัวและกระตุ้นแนวคิดเรื่องการนำนวัตกรรมไปใช้ในการเชื่อมโยงองค์ความรู้และภูมิปัญญาจากผลงานวิจัย ให้สามารถนำไปต่อยอดและขยายผลให้เกิดประโยชน์ได้อย่างเป็นรูปธรรมโดยผ่านช่องทางการอนุญาตให้ใช้สิทธิในผลงานวิจัย และเป็นการประกาศเกียรติคุณสำหรับนักวิจัยและผู้ประกอบการทุกท่านที่มีส่วนส่งเสริมสนับสนุนให้มีนำผลงานวิจัยสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมของมหาวิทยาลัย ไปสู่กระบวนการธุรกิจเชิงพาณิชย์อย่างมีศักยภาพ
ผลงานวิจัยที่จะเข้าร่วมลงนามอนุญาตใช้สิทธิในผลงานครั้งนี้มี จำนวน 6 ผลงาน ได้แก่

ชื่อผลงาน สูตรอาหารสัตว์น้ำที่มีส่วนผสมของปาเปนและกรรมวิธีผลิต และกระบวนการที่เกี่ยวข้อง
ผลงานโดย ผศ.ทิพสุคนธ์ พิมพ์พิมล คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ
ร่วมกับ บริษัท เอ็ม ที เกษตรแปรรูป จำกัด

ชื่อผลงาน กระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพอาหารเสริมจากสมุนไพรโดยใช้เทคโนโลยีพลาสมา
ผลงานโดย อาจารย์ ดร.กีรติญา จันทร์ผง อาจารย์ ดร.สุรีย์พร สราภิรมย์ และ ผศ.ดร.นลิน วงศ์ขัตติยะ คณะวิทยาศาสตร์ร่วมกับ บริษัท รีอิน (ประเทศไทย) จำกัด

ชื่อผลงาน กรรมวิธีการผลิตน้ำส้มสายชูหมักจากเนื้อผลกาแฟและผลิตภัณฑ์กาแฟในน้ำส้มจากเนื้อผลกาแฟพร้อมดื่มเพื่อสุขภาพ และกระบวนการที่เกี่ยวข้อง
ผลงานโดย ผศ.ดร.กาญจนา นาคประสม คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร
ร่วมกับ บริษัท ฮิลล์คอฟฟ์ จำกัด

 


ชื่อผลงาน ระบบจับคู่ผสมพันธุ์ปลานิลและกระบวนการที่เกี่ยวข้อง
ผลงานโดย ผศ. ดร.นิสรา กิจเจริญ คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ
ร่วมกับ วิสาหกิจชุมชนวิถียั่งยืน เกษตรอินทรีย์สารภี เชียงใหม่

ชื่อผลงาน กระบวนการสกัดพืชสมุนไพร
ผลงานโดย ผศ.ดร.ดวงพร อมรเลิศพิศาล คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ
ร่วมกับ บริษัท ปัญญาไท จำกัด

 


ชื่อผลงาน กระบวนการเคลือบแผ่นกรองเส้นใยปอสาเพื่อเพิ่มสมบัติการสะท้อนน้ำและการเพิ่มมูลค่าเส้นใยปอสา
เพื่อผลิตหน้ากากอนามัยชนิด 3 ชั้น
ผลงานโดย อาจารย์ ดร.ธวัฒน์ สร้อยทอง ผศ.ดร.สุพัตรา วงศ์แสนใหม่ ผศ. ดร.เรวดี วงศ์มณีรุ่ง ผศ.ดร.ปราณรวีร์ สุขันธ์ อาจารย์ ดร.เนตราพร ด้วงสง และ ผศ.ดร.ดวงพร อมรเลิศพิศาล คณะวิทยาศาสตร์ และคณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ
ร่วมกับ บริษัท ซิมพลิ เด็คคอร์ จำกัด

โอกาสเดียวกันนี้ ทางมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้มีการเปิดตัวพืชสายพันธุ์ใหม่ ผลงานของ ผศ.ดร.เฉลิมศรี นนทสวัสดิ์ศรี คณะผลิตกรรมการเกษตร ซึ่งเป็นการพัฒนาปรับปรุงพันธุ์ จากการผสมพันธุ์ดอกปทุมมาและดอกกระเจียวพลอยไพลิน ทำให้ได้พืชสายพันธุ์ใหม่ 3 ตัว ได้แก่ 1.) แม่โจ้กรีนเพิร์ล 2.)แม่โจ้ไวท์เพิร์ล 3.)แม่โจ้พิ้งค์เพิร์ล ที่มีความสวยงามโดดเด่น มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่สามารถต่อยอดเป็นการผลิตเพื่อการค้าต่อไปในอนาคต ถือเป็นอีกผลงานสำคัญของมหาวิทยาลัยแม่โจ้

นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยที่มีความโดดเด่น มีศักยภาพและความพร้อมที่จะพัฒนาไปสู่การสร้างธุรกิจนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของภาคอุตสาหกรรม อีกจำนวน 5 ผลงาน ได้แก่

เรื่อง อุปกรณ์ตรวจตัวอ่อนในปศุสัตว์ โดย ผศ.ดร.วิวัฒน์ พัฒนาวงศ์ คณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี
เรื่อง ระบบควบคุมไบโอรีแอคเตอร์จมชั่วคราวต้นทุนต่ำสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย โดย รศ.ดร.พูนพัฒน์ พูนน้อย คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร และ อาจารย์ นนท์ ปิ่นเงิน และคณะบริหารธุรกิจ
เรื่อง กระบวนการผลิตสิ่งทอต้านเชื้อแบคทีเรียและแมลงด้วยไมโครแคปซูล โดย รศ.ดร.อรุณี คงดี อัลเดรด คณะวิทยาศาสตร์
เรื่อง การก่อหม้อและกรรมวิธีการผลิตสิ่งนั้น โดย รศ.ดร.ณัฐพร จันทร์ฉาย มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ
เรื่อง ตู้ปลูกสตอเบอรี่ในระดับอุตสาหกรรม โดย ผศ.ดร.สิริวัฒน์ สาครวาสี คณะผลิตกรรมการเกษตร

ภายในบริเวณงานยังมีการจัดนิทรรศการแสดงผลงานวิจัยที่ร่วมลงนามอนุญาตให้ใช้สิทธิ และผลงานวิจัยเด่นอีกหลายผลงาน ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ร่วมงาน ผู้ประกอบการ และสื่อมวลชนเป็นอย่างยิ่ง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาขนส่งสินค้าแม่สายคาดเข้าใจผิดกันหลังเกิดการแพร่ระบาดโควิด 19

วันที่ 25 ก.ย.63 ที่ห้องประชุมหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 2 กองกำลังผาเมือง พันเอกชาตรี สงวนธรรม ผบ.ฉก.ม.2.กองกำลังผาเมือง เป็นประธานประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ชายแดนอำเภอแม่สายจังหวัดเชียงรายหลังจากเกิดข้อพิพาทระหว่างไทยและเมียนมา เกี่ยวกับการขนส่งสินค้าข้ามแดนในช่วงที่มีการระบาดของโรคไวรัส covid-19 ทำให้ทางเมียนมา ไม่ยินยอมให้รถขนสินค้าจากประเทศไทยเข้าไปในประเทศเมียนมาที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก โดยให้ผ่าน ด่านพรมแดนวันละ 6 คันเท่านั้น รถในฝั่งไทยและฝั่งเมียนมา ส่งผลให้ผู้ประกอบการขนส่ง และสินค้าที่ต้อง ไปส่งในประเทศเมียนมาเสียหายมูลค่า 80 – 100 ล้านบาทต่อวัน

 

โดยล่าสุด พันเอกชาตรี สงวนธรรม ได้เป็นประธานประชุมหารือร่วมกับ ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สาย ตรวจคนเข้าเมืองเขียงราย กรมควบคุมโรคติดต่อ หอการค้า ศุลกากรแม่สาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หารือถึงทางออก ของปัญหาดังกล่าว ซึ่งหลังจากการประชุมได้ข้อสรุปว่า จะให้รถตู้ขนส่งสินค้าของเมียนมา สามารถเข้าออกประเทศไทยได้วันละ 168 คันโดยไม่จำกัดจำนวนรอบและให้เปลี่ยนคนขับ ที่บริเวณด่านพรมแดนโดยให้คนขับจากเมียนมาพักอยู่ที่จุดคัดกรองและเปลี่ยนให้คนขับในฝั่งไทยกับต่อ ไปรับสินค้ายังจุด ขนส่งหรือโกดังเก็บสินค้า ในส่วนคนขับรถของไทย ก็ปฏิบัติเช่นเดียวกัน แต่ในส่วนของรถบรรทุกน้ำมันสามารถ บรรทุกน้ำมันข้ามไปยังฝั่งประเทศเมียนมาร์ได้โดยไม่จำกัดจำนวนคัน เพื่อให้การขนส่งเพียงพอต่อความต้องการในพื้นที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก

โดยข้อสรุปดังกล่าว จะได้ทำเป็นเอกสาร มอบให้กับทางศูนย์ประสานงานชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมาฝ่ายไทยหรือ tbc เพื่อส่งมอบให้กับ ทางศูนย์ประสานงานชายแดน ส่วนท้องถิ่นเมียนมา-ไทย ฝ่ายเมียนมา เพื่อหาทางออกร่วมกันยังไงก็ตามปัญหาก่อนหน้านี้คาดว่าเกิดจากการสื่อสารที่เข้าใจไม่ชัดเจนทำให้เกิดความไม่เข้าใจจึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ซึ่งการหารือในครั้งนี้เพื่อเป็นการหาทางออก ให้กับผู้ประกอบการทั้งสองประเทศและเป็นการสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศของไทยและเมียนมา ต่อไป

ชาวอ.พร้าวเปิดสนามยิงปืน”พร้าวรวมใจ”ใช้เป็นสนามฝึกยิงเจ้าหน้าที่และปชช. เพิ่มทักษะการยิงป้องกันตัวให้ถูกวิธี

 

ชาวอำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่สมทบทุนสร้างสนามยิงปืนให้เจ้าหน้าที่และประชาชนได้ฝึกยิงปืนเพื่อป้องกันตัวและใช้ปืนให้ถูกวิธี โดยใช้พื้นที่ของ ตร.ภูธรพร้าว ถือว่าเป็นสนามยิงปืนประจำอำเภอแห่งแรกของเชียงใหม่ที่ประชาชนช่วยกันสร้างขึ้น

 

มื่อเวลา 10.00น. วันที่ 25 กย.63 พล.ต.ท. ประจวบ  วงค์สุข ผบช.ภ. 5  พร้อม

  พ.ต.อ. ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย  รอง ผบก .สส.ภ. 5  พ.ต.อ.วรพงษ์ คำลือ รอง ผบก.สส.ภ. 5

 พ.ต.อ. ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก. ภ.จ.ว.เชียงใหม่ ได้เดินทางไปเป็นประธานเปิดสนามยิงปิน ‘’ พร้าวรวมใจ‘’ ที่ตำบลน้ำแพร่ อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่  โดยมีนายทรงศักดิ์ วลัยใจ นายอำเภอพร้าว    พ.ต.อ. วิชาธร ผิวผ่อง ผกก.สภ.พร้าวและ ร.ต.ท. นคร ปัญญาทิพย์ที่ปรึกษากำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอพร้าว ตลอดจนกำนันผู้ใหญ่บ้านและประชาชนให้การต้อนรับและเดินทางมาร่วมงานเปิดสนามยิงปืนครั้งนี้ด้วย

 

ซึ่งในการเปิดสนามยิงปืนได้มีการเปิดป้ายมีพิธีสงฆ์เพื่อความเป็นศิริมงคลก่อนที่ทางพล.ต.ท. ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5   จะมอบโล่ห์ประกาศเกียรติคุณให้กับผู้สนับสนุนในการสร้างสนามยิงปืนและมอบกระสุน 1,000นัดไว้ให้กับสนามยิงปืนรวมใจพร้าวไว้ใช้ประโยชน์ในการซ้อมยิงปืน

สำหรับสนามยิงปืน’’พร้าวรวมใจ’’ นั้นเป็นสนามยิงปืนที่ชาวอำเภอพร้าว ทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมกันบริจาคเงินสร้างขึ้นมาโดยใช้เงินไปทั้งหมด 1,295,027.50 บาท และขอใช้พื้นที่ราชพัสุดของ

 

ตำรวจภูธรพร้าวจำนวน 7 ไร่ ในการสร้างสนามยิงปืนครั้งนี้  โดย ร.ต.ท. นคร ปัญญาทิพย์ ที่ปรึกษาประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านเปิดเผยว่า พื้นที่นี้ก่อนหน้านี้เคยมีการใช้เป็นสนามซ้อมยิงปืนมาก่อนแต่ถูกปล่อยให้รกร้างเป็นป่าเนื่องจากยังไม่มีความพร้อมด้านสถานที่ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐและชมรมยิงปืนอำเภอพร้าวนั้นต้องไปฝึกยิงปืนกันไกลถึงในเมือง  ดังนั้นการสร้างสนามให้ยิงปืนขึ้นมานั้นเพื่อเป็นการเพิ่มพูนทักษะความรู้ความชำนาญ  ยุทธวิธี ตลอดจนถึงการใช้อาวุธปืนอย่างถูกวิธีให้กับข้าราชการตำรวจและทุกภาคส่วน

 

ด้าน พล.ต.ท. ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5  เปิดเผยว่า โดยพี่น้องทุกคนชาวพร้าวทุกหมู่เหล่าได้เปิดสนามยิงปืนพร้าวรวมใจให้ตำรวจเพื่อให้พี่ตำรวจและพี่น้องชาวอำเภอพร้าวได้ใช้ในฝึกฝนการยิงปืนไว้ป้องกันตัว ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก ที่มีสนามยิงปืนเนื่องจากพื้นที่อำเภอพร้าวนั้นอยู่ห่างไกลตัวเมืองเชียงใหม่ถึง 95 กิโลเมตรมีทั้งหมด  109 หมู่บ้าน 11 ตำบล ซึ่งก็จะมีกำนันผู้ใหญ่บ้านที่ปัจจุบันต้องมีอาวุธปืนเพื่อป้องกันตัวเวลาปฏิบัติหน้าที่นอกเหนือจากตำรวจ และฝ่ายปกครอง

 ซึ่งการมีสนามยิงปืนนี้ก็จะเกิดผลดีต่อทั้งตำรวจ ข้าราชการฝ่ายปกครอง ฝ่ายท้องถิ่น ตลอดประชาชนที่มีใบอนุญาติให้ใช้อาวุธปืนได้อย่างถูกต้องสามารถมาฝึกฝนการยิงปืนที่ถูกวิธีเพื่อป้องกันตัวและใช้รักษาความสงบเรียบร้อยได้ ในส่วนของการอำนวยความสะดวกนั้นถ้าหากทางสนามยิงปืนพร้าวรวมใจนั้นต้องการครูฝึกทักษะที่ดีหรือต้องการเครื่องมือสนับสนุนทางตำรวจภูธรภาค 5 ก็พร้อมยินดีจะช่วยสนับสนุน

 

ซึ่งการเปิดสนามยิงปืนครั้งนี้นั้นนอกจากจะมีพิธีเปิดป้ายและพิธีสงฆ์เพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว พล.ต.ท. ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 ยังได้ซ้อมยิงปืนปฐมฤกษ์เพื่อเป็นการเปิดสนามด้วย ก่อนที่จะมีตำรวจและกำนันผู้ใหญ่บ้านซ้อมยิงปืนกันต่อ โดยสนามยิงปืนนี้เป็นสนามยิงปืนแบบกลางแจ้งซึ่งอยู่ห่างไกลบ้านเรือนประชาชนด้วย โดยด้านบนจะทำเป็นบังเกอร์สูงและมีการปลูกดอกปอเทืองไว้ด้านบนถือว่าสนามยิงปืนที่มีทั้งความดุดันและความสวยงามของธรรมชาติอยู่ในพื้นที่เดียวกัน

 

คุมตัวพ่อโหดทำแผนกรอกน้ำยาล้างห้องน้ำฆ่าลูกสาววัย 6 วัน ก่อนนั่งรอจนลูกตายต่อหน้าต่อตา จากนั้นนำศพไปฝังอำพรางในสุสาน สารภาพอยากได้ลูกชายไว้สืบสกุล

คุมตัวพ่อโหดทำแผนกรอกน้ำยาล้างห้องน้ำฆ่าลูกสาววัย 6 วัน ก่อนนั่งรอจนลูกตายต่อหน้าต่อตา จากนั้นนำศพไปฝังอำพรางในสุสาน สารภาพอยากได้ลูกชายไว้สืบสกุล แต่เมียกลับคลอดลูกสาวจึงผิดหวังมา ด้านเมียช็อก ไม่คิดสามีจะลงมือฆ่าลูกได้ลงคอ

 

ความคืบหน้าตำรวจ สภ.ช้างเผือก จับกุมนายอนุภาพ โจปัญญา อายุ 45 ปี หลังก่อเหตุฆาตกรรมเด็กหญิง ณิชา โจปัญญา อายุ 6 วัน ลูกสาวของตัวเอง โดยการกรอกน้ำยาล้างห้องน้ำใส่ปาก และนำศพไปฝังอำพรางในสุสาน ในพื้นที่อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 กันยายนที่่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้ ( 24 กันยายน) ตำรวจได้นำตัวนายอนุภาพ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านพัก ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ชั้นล่างเปิดเป็นร้านกิ๊ฟช็อป ส่วนชั้น 2 และชั้น 3 เป็นที่พักอาศัย อยู่หลังตลาดธานินทร์ ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ โดยเริ่มจากช่วงเช้านายอนุภาพขั้นไปที่ห้องนอนชั้น 3 ที่ภรรยานอนพักอยู่กับลูก ก่อนจะบอกกับภรรยาว่า จะขอเอาลูกไปให้ย่าดูที่ชั้น 1 ของบ้าน
ส่วนจุดที่สองเป็นลานจอดรถของร้านขนมจีนบุปเฟต์แห่งหนึ่ง ย่านถนนโพธาราม ตำบลช้างเผือก ซึ่งเป็นจุดที่นายอนุภาพขับรถกระบะนำลูกสาวมากรอกน้ำยาล้างห้องน้ำ และโยนขวดน้ำยาล้างก่อนน้ำทิ้ง โดยนายอนุภาพนั่งเฝ้าลูกสาวอยู่ในรถ ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีลูกสาวจึงสิ้นใจไปต่อหน้าต่อตา จากนั้นหลังลูกสาวเสียชีวิต ก็ขับรถไปยืมพลั่วและจอบขุดดินที่ร้านคาร์แคร์แห่งหนึ่ง ก่อนขับรถกระบะมุ่งหน้าไปสุสานจีน ซึ่งเป็นสถานที่ฝังศพของพ่อและแม่นายอนุภาพ เพื่อฝังร่างไร้วิญญาณของลูกสาวตัวเอง และเดินทางกลับมาบ้านพักเข้าไปกอดภรรยา และร่ำไห้สารภาพผิดว่าได้ลงมือฆ่าลูกตัวเองไปแล้ว จนภรรยาถึงกับช็อก


ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวน ได้เรียกตัวนางสาวมาลี สินไพร่ อายุ 30 ปี ภรรยาของนายอนุภาพมาสอบปากคำ โดยนางสาวมาลี อาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวกับสามีและครอบครัวรวม 6 คน โดยตนเองมีลูกสาวกับสามีแล้ว 2 คน อายุ 7 ปี และ 9 ปี ซึ่งที่ผ่านมาสามีก็รักลูกสาว 2 คนมาก และหลังท้องลูกคนที่ 3 และไปอัลตราซาวด์ขณะอายุครรภ์ได้ 4 เดือน ก็ทราบว่าลูกเป็นเพศหญิง สามีพยายามบอกให้ไปทำแท้งเพราะไม่อยากได้ลูกสาวแล้ว แต่อยากได้ลูกชายแต่ตนไม่ยอม กระทั้งคลอดลูกออกมา ไม่คิดว่าสามีจะลงมือฆ่าลูกได้ลงคอ
โดยหลังก่อเหตุแล้ว สามีได้มาสารภาพผิดกับตนเอง รู้สึกช็อกมากและรับไม่ได้จึงมาแจ้งตำรวจ ยืนยันว่า ที่บ้านไม่ได้มีปัญหาเรื่องการเงินแต่อย่างใด แต่สาเหตุที่สามีฆ่าลูก เพราะอยากได้ลูกชายไว้สืบสกุล แต่เมื่อได้ลูกสาวจึงผิดหวังและเกิดความเครียด

นางสาวมาลี บอกด้วยว่า ต่อนี้ไปตนยังไม่รู้จะดำเนินชีวิตอย่างไร ส่วนศพของลูกก็ยังอยู่ที่ แผนกนิติเวชโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ แต่เตรียมจะไปติดต่อรับศพประกอบพิธีทางศาสาสนาคริสต์ที่สุสานในอำเภอดอยสะเก็ดต่อไป
ด้าน พ.ต.ท.จักรกรี วงศ์คำ รองผู้กำกับการ สภ.ช้างเผือก กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือฆ่าลูกสาวจริงเนื่องจากไม่ต้องการมีลูกสาว เพราะมีลูกสาวสองคนแล้วอายุ 7 ขวบ กับ 9 ขวบ จึงต้องการลูกชาย เมื่อภรรยาตั้งครรภ์และคลอดมาเป็นลูกสาวอีก จึงผิดหวัง ที่ผ่านมามีปากเสียงกับภรรยาตลอด เพราะไม่ต้องการลูกคนนี้กระทั่งมาก่อเหตุสลดดังกล่าว

 

รอง ผบ.ตร.แถลงจับยาเสพติดรายใหญ่ ยาบ้ากว่า 7 ล้านเม็ด เคตามีน 100 กก.

รอง ผบ.ตร.แถลงจับยาเสพติดรายใหญ่ ยาบ้ากว่า 7 ล้านเม็ด เคตามีน 100 กิโล

 


เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 ก.ย.63 พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางมาที่กอองบังคับการตำรวจภูธรจังหวักเชียงราย เพื่อเป็นประธานในการแถลงข่าวการจับกุมยาเสพติดจำนวนมาก โดยมี เจ้าหน้าที่กองกำลังผาเมือง ทหารจาก ฉก.ม.2 กรมทหารพรานที่ 32 กอ.รมน.จ.เชียงราย ตำรวจภูธรภาค 5 ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ได้ร่วมกันแถลงข่าว โดยการจับกุมครั้งนี้ สามารถยึดยาเสพติดเป็นยาบ้าจำนวน 6,700,000 เม็ด และเคตามีน จำนวน 100 กิโลกรัม พร้อมสามารถขยายผลติดตามเครือข่ายของขบวนการค้ายาเสพติด และจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 2 คนคือ นายไซ แข้อ อายุ 27 ปี ชาว ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย และ นายหวังอินทร์ แซ่ว่าง อายุ 26 ปี ชาว ต.ปอ อ.เวียงแก่น จว.เชียงราย

 

โดยการติดตามจับกุมในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดพื้นที่แนวชายแดนและตอนใน ตำรวจภูธรภาค 5 ชุดสืบสวนขยายผลยาเสพติด ตำรวจภูธรภาค 5 บก.สส.ภ.5 ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.เชียงราย ชุดสืบสวน สภ.เชียงของ จ.เชียงราย และ สภ.ภูซาง จ.พะเยา ได้ร่วมกันติดตามขยายผลจากการจับกุม นายใหม่ ไชโย อายุ 43 ปี ชาว ต.หนองแดง อ.แม่จริม จ.น่าน พร้อมของกลาง
ยาบ้า ประมาณ 6 ล้านเม็ด รถยนต์บรรทุก 6 ล้อ จำนวน 1 คัน เมื่อวันที่ 31 ก.ค.63 ที่ผ่านมา พร้อมของกลาง จึงได้ทการสืบสวนสอบสวนขยายผล พบว่ากลุ่มมัง เขต อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เป็นผู้ลำเลียงยาเสพติดจากแนวชายแดนด้าน จ.เชียงราย ไปส่งให้กับกลุ่มของนายใหม่ในพื้นที่จังหวัดพะเยา จึงได้เฝ้าติดตาม

จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 21 ก.ย.63 พบรถยนต์กลุ่มลำเลียง จำนวน 4 คัน ขับตามกันมาด้วยความเร็วสูง จากเขต อ.เชียงแสน มุ่งหน้าไปยัง อ.เชียงของ จ.เชียงราย จึงได้สะกดรอยติดตาม แต่รถยนต์กลุ่มดังกล่าว ไหวตัว
หลบหนี โดยเจ้าหน้าที่สามารถสกัดรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว เลขทะเบียน ผญ 409 เชียงราย เอาไว้ได้ที่ บริเวณในหมู่บ้านร่องห้า ต.ศรีดอนชัย อ.เชียงของ จว.เชียงราย จากการตรวจสอบภายในรถพบว่า ได้บรรทุกยาบ้า จำนวน 6,700,000 เม็ดและเคตามีน จำนวน 100 กิโลกรัม ส่วนผู้ต้องหาและผู้โดยสาร รวมจำนวน 2 คน ได้วิ่งหลบหนีไป

 

ต่อมาเมื่อวันที่ 22 ก.ย.63 ได้ขยายผลออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย คือ นายไซ แซวต และนายหวังอินทร์ แซ่ว่าง ทั้งสองคนมีภูมิลำเนาอยู่บ้านห้วยหาน ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และได้ทำการสืบสวน สอบสวนขยายผล ขบวนการลำเลียงยาเสพติด เครือข่ายผู้เกี่ยวข้องและขยายผลการตรวจยึดอายัดทรัพย์สินมาด้าเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ตำรวจภูธรภาค 5, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้ร่วมกันสอดส่อง

พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ กล่าวว่า กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดในช่วงหลังนี้ได้มีการเปลี่ยนเส้นทางจากเดิมที่นำเข้ามาจากทางด้าน อ.แม่สาย อ.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่จัน จ.เชียงราย และชายแดน ด้าน จ.เชียงใหม่ ได้มาใช้เส้นทางด้านติดกับประเทศ สปป.ลาว เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่ แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้การติดตามอย่างต่อเนื่องทำให้สามารถสกัดกั้นและจับกุมได้ในที่สุด พร้อมทั้งจะมีการขยายผลกลุ่มผู้ร่วมขบวนการเพื่อทำการยึดทรัพย์ต่อไป

จิตใจทำด้วยอะไร”รวบพ่อโหดนำน้ำยาล้างห้องน้ำกรอกปากลูกน้อยเพิ่งเกิดได้เพียง 6 วัน

ตำรวจ สภ.ช้างเผือกรวบ พ่อใจยักษ์ ใช้น้ำยาล้างห้องน้ำกรอกปากลูกน้อยวัย 6วันก่อนนำไปฝัง
เหตุไม่พอใจเมียคลอดลูกเป็นหญิงต้องต้องการลูกชายไว้สืบเชื้อสาย

เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 23 ก.ย.63 พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก พร้อมชุดสืบสวนสภ.ช้างเผือก ได้ทำการจับกุมตัวนายอนุภาพ ใจปัญญา อายุ 45 ปีอยู่บ้านเลขที่ 23/1ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนปากคำที่ สภ.ช้างเผือก
สำหรับการจับกุมครั้งนี้ทางตำรวจได้รับแจ้งจากภรรยาของนายอนุภาพ ได้เข้าแจ้งความว่าลูกสาวที่เพิ่งเกิดได้เพียง 6 วันได้หายออกจากบ้านแบบไร้ร่องรอย และเกิดความสงสัยในตัวของนายอนุภาพ สามี
ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงลงพื้นที่ตรวจสอบและพูดคุยกับว่านายอนุภาพซึ่งตลอดเวลาที่มีการซักถามพูดคุยนั้นนายอนุภาพผู้ต้องหามีอาการตื่นตระหนกและมีข้อพิรุธ หลายอย่าง


จึงนำตัวมาสอบปากคำอย่างละเอียดที่ สภ.ช้างเผือก จนนายอนุภาพ จนมุมและให้การรับสารภาพว่า
ได้ทำการฆ่าลูกสาววัย 6 วันหลังจากนั้นได้นำศพไปฝังไว้ที่สุสานคริสต์หมู่ 9 บ้านใหม่ริมคลอง ต.ลวงเหนือ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่เพื่ออำพรางคดี และบอกทุกคนลูกสาวหายตัวไปเองคาดเป็นแก๊งขโมยเด็ก
ตำรวจ สภ.ช้างเผือก จึงได้ประสานทาง ร.ต.ท. ธนพัต ภัทรศิริพร รองสว. สอบสวน สภ.ดอยสะเก็ด ร่วมตรวจสอบ
และตัวนายอนุภาพ ไปทำการขุดศพ ด.ญ.ณิชา ใจปัญญา อายุ 6 วันที่ถูกนำไปฝัง โดยมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างสำเร็จเชียงใหม่ นำทีมไปทำการขุดศพขึ้นมา


ก่อนจะนำศพไปชันสูตรที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่นอกจากนี้บริเวณใกล้หลุมฝังศพยังพบขวดน้ำยาล้างห้องน้ำจำนวน 1 ขวดจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่าเดิมทีนายอนุภาพ ทำอาชีพขายสินค้ากิ๊ฟช็อป เป็นคนมีเชื้อสายจีนจากบรรพบุรุษ มีลูกสาวแล้ว 2 คนและต้องการให้ภรรยาท้องเพื่อที่จะมีลูกชายมาสืบเชื้อสายวงค์ตระกูล
ก่อนที่ภรรยาจะคลอดลูกสาว เมื่อ 6 วันก่อน สร้างความผิดหวังให้กับนายอนุภาพเป็นอย่างมากจึงทำให้นายอนุภาพเครียดและบ่นกับคนในครอบครัวทุกวัน ว่าเด็กไม่น่าเกิดมาเลย ประกอบกับระยะนี้การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ทำให้ธุรกิจที่ทำอยู่ประสบความยากลำบากและเจอปัญหาเรื่องลูกไม่ได้ดังใจ จึงตัดสินใจคิดสั้นอุ้มลูกสาวออกจากบ้านและกรอกน้ำยาล้างห้องน้ำจนหมดขวด ก่อนจะเอาลูกไปฝั่งเพื่อหวังอำพรางคดี กระทั่งมาถูกจับกุมตัว

 

สภาพอากาศวันที่ 24 กย.63

รายงานสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ ประจำวันที่ 24 กย.63

บริเวณประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกมรสุมพัดพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวัน     ออกเฉียงเหนือตอนล่าง
เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุม      ทะเลอันดามัน ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่ภาคเหนือเสี่ยงภัยในภาคเหนือ ระวังอันตราย จากฝนตกหนัก   และฝนที่ตกสะสมด้วยไว้ด้วย

บริเวณจังหวัดเชียงใหม่มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่

ธรรมะเดลิเวอรี่พระสงฆ์ออกเทศนาธรรมเยี่ยมบ้านผู้ป่วยให้กำลังใจ

ธรรมะเดลิเวอรี่เจ้าอาวาสวัดบุปผาราม นำสามเณรและผู้สูงอายุออกเยี่ยมเทศนาธรรมและให้กำลังใจผู้ป่วยในหมู่บ้านที่ไม่สามารถเดินทางมาวัดได้

เป็นประจำทุกๆวันพระในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา พระใบฏีกาเจษฎาพร

เจ้าอาวาสวัดบุปผาราม(ทุ่งหัวช้าง) ต.ริมใต้ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่พร้อมภิกษุสามเณร และญาติโยม แม่ผ้าขาว พ่อผ้าขาวจะมีการเทศนาธรรมกันในช่วงบ่ายภายในวิหารของวัด ซึ่งหลังจากเสร็จการฟังเทศน์ฟังธรรม ก็จะพากันเดินออกจากวัดไปเยี่ยมญาติโยมผู้สูงอายุที่ป่วยติดเตียง หรือไม่สบายภายในหมู่บ้านทุ่งหัวช้างหมู่ 7  ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆในอำเภอแม่ริม มีเพียง 50 หลังคาเรือน

 

ซึ่งเมื่อมีผู้พบเห็นภาพนี้หลายคนก็อดจะสงสัยไม่ได้และถือว่าเป็นมิติใหม่ของธรรมะเดลิเวอรี่ ที่พระสงฆ์เข้าไปพูดคุยเยี่ยมเยือนและเทศนาธรรมให้กับผู้ป่วยที่มีอายุเยอะไม่สามารถเดินทางมาวัดได้บางรายก็มีโรคประจำตัวปวดหัวเข่า

 

พระพระใบฏีกาเจษฎาพร  เจ้าอาวาสวัดบุปผาราม เปิดเผยว่าท่านได้มาจำพรรษาเป็นเจ้าอาวาสที่นี้มา 5 ปีแล้ววัดแห่งนี้เป็นวัดเล็กๆก็เวลาคนในหมู่บ้าน มาทำบุญก็จะรู้จักกันหมดโดยเฉพาะผู้สูงอายุที่จะมาทำบุญกันเป็นประจำทุกวันพระ และวันเทศกาลต่างๆแต่ต่อมาบางรายล้มป่วยติดเตียง อายุมากปวดหัวเข่ามาทำบุญได้ ท่านจึงมีแนวคิดว่าพระและญาติโยมที่มาฟังธรรมที่วัดน่าจะพากันไปเยี่ยมหรือให้กำลังใจผู้ป่วยอย่างน้อยก็ให้พวกเขาได้รับรู้ว่าพวกเราไม่ทอดทิ้งอยู่บ้านก็สามารถทำบุญได้และมีเพื่อนฝูงที่เคยไปวัดด้วยกันไปเที่ยวหายซึ่งจะทำให้พวกเขามีกำลังใจต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บมากขึ้นและไม่ต้องคิดว่าตัวเองถูกทอดทิ้ง ซึ่งทุกครั้งที่ไปนั้นทางเจ้าอาวาสก็จะพูดสนทนาธรรมขอให้โยมหายป่วย อดทนและต่อสู้กับโรคภัยคิดดีทำดีอย่ายอมแพ้ ซี่งที่ผ่านมามีผู้ป่วยที่อายุเยอะไม่สบายและป่วยติดเตียงรักษาอาการหายเพราะมีกำลังใจที่ดี 5 รายแล้ว อย่างเช่น คุณยายบุญศรี ศรีเจริญ อายุ 80 ปี ที่เจ็บทางหัวเข่าไม่สามารถเดินทางไปวัดได้วันนี้ทางเจ้าอาวาสพร้อมพระภิกษุสามเณรจึงได้เดินทางไปเยี่ยม

 

 

โดยคุณยายบุญศรีบอกว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมาก ที่ทุกคนมาเที่ยวหาที่บ้าน เพราะปัจจุบันคุณยายเดินลำบากปกติจะไปวัดต้องขอให้เขานำรถพ่วงมารับแต่พักหลังไม่ต้องไปหลวงพ่อก็จะมาหาเอง นอกจากจะเป็นขวัญกำลังใจแล้วยังเป็นการสร้างความสามัคคีในชุมชนด้วย

นอกจากยายบุญศรีแล้ว ทางเจ้าอาวาสก็จะตระเวนไปเยี่ยมบ้านผู้ป่วยรายอื่นอีกถึงแม้จะเดินลัดเลาะผ่านทุ่งนาไปก็ตามแต่ทุกท่านก็มีความสุขและมีรอยยิ้มเมื่อได้แบ่งปันความสุขให้กับผู้ป่วยที่ต้องการกำลังใจในยามนี้

 

 

สำนักงาน ก.พ. แจงสนามสอบศูนย์สอบจังหวัดเชียงใหม่วันที่ 27 กย. 63

 

สำนักงาน ก.พ. แจงสนามสอบศูนย์สอบจังหวัดเชียงใหม่วันที่ 27 กย. 63

ซึ่งในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่มีทั้งหมด 15 สนามสอบ  มีผู้เข้าสอบภาคเช้าและบ่ายทั้งหมด 35,000 คน

ดังนั้นขอประชาสัมชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตรวจสอบเส้นทางและเผื่อเวลาในการเดินทาง

เพราะเกรงว่าจะมีรถติดในช่วงบางเวลาเนื่องจากมีผู้เดินทางจากต่างจังหวัดเข้ามาสอบในพื้นที่สนามสอบศูนย์จังหวัดเชีนงใหม่เป็นจำนวนมาก