ดอกสร้อยไก่ญี่ปุ่นหลากหลายสีสัน ทั้งสีแดง สีม่วง สีส้ม และสีชมพู ร่วมถึงดอกคัตเตอร์สีม่วง ที่บานสะพรั่งเต็มท้องทุ่งในสวนไอเลิฟฟาวเวอร์ฟาร์ม ตำบลเหมืองแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยี่ยมชม หลายคนพากันถ่ายภาพท่ามกลางสวนดอกไม้กันอย่างสนุกสนาน
ดอกไม้ทั้งหมดนี้ถูกเนรมิตขึ้นบนพื้นที่ 12 ไร่ เพื่อต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยวสวนดอกไม้ของตำบลเหมืองแก้ว ซึ่งเทศบาลตำบลเหมืองแก้วจัดขึ้นเป็นปีที่ 2 
ซึ่งวันนี้ ( 29 ตุลาคม) เทศบาลตำบลเหมืองแก้ว ได้จัดพิธีเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวสวนดอกไม้ตำบลเหมืองแก้วขึ้น โดยมีนายกฤตพล รชตเมธานนท์ ปลัดอำเภอแม่ริม เป็นประธานในพิธีเปิดงานขึ้นที่ สวนดอไม้ไอเลิฟฟาวเวอร์ฟาร์ม ท่ามกลางสื่อมวลชน แขกผู้มีเกียรติ และนักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมงานจำนวนมาก
นายวิชัน เมธา นายกเทศมนตรีตำบลเหมืองแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ปกติในพื้นที่ตำบลเหมืองแก้ว มีเกษตรกรปลูกดอกไม้ เพื่อตัดช่อส่งจำหน่ายเพียงอย่างเดียว แต่เมื่อทางสวน ไอเลิฟฟาวเวอร์ฟาร์มได้เริ่มเปลี่ยนแปลงจากการตัดช่อจำหน่ายเพียงอย่างเดียว มาเปิดสวนให้นักท่องเที่ยวเข้ามาถ่ายรูป โดยคิดค่าเข้าชมสวน จนเป็นที่รู้จัก มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ชาวบ้านมีรายได้เสริมจากการเปิดสวนดอกไม้ให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนได้เป็นอย่างดี
ด้านนางสาว ชฎารัตน์ เมฆเจริญ เกษตรอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ในพื้นที่ต.เหมืองแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีเกษตรกรผู้ปลูกดอกไม้ที่ขึ้นทะเบียนเกษตกรอยู่ประมาณ 78 ราย พื้นที่ 203 ไร่ โดยเกษตรกรทั้งหมดได้พยายามลดต้นทุนการปลูกด้วยการลดการใช้สารเคมี โดยเปลี่ยนมาใช้สารชีวพันธุ์เพิ่มมากขึ้น
สำหรับรายได้ของเกษตรกร ในพื้นที่ 1 ไร่ จะมีรายได้ประมาณ 150,000 บาท ต่อปี หลังจากที่มีการเปิดสวนให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาถ่ายรูป ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นอีกประมาณ ร้อยละ30-50
นางสาวณวิสา มูลทา เจ้าของสวน ไอเลิฟฟาวเวอร์ฟาร์ม กล่าวว่า มองว่าในแต่ละปี คนไทยเดินทางไปต่างประเทศเพื่อท่องเที่ยวสวนดอกไม้ในต่างประเทศ จึงมองว่า พื้นที่ที่มีอยู่สามารถนำมาเปิดเป็นสวนดอกไม้ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาถ่ายรูป จึงเริ่มดำเนินการตั้งแต่เมื่อปีที่ผ่านมา โดยเริ่มปลูก มากาเร็ต และคัตเตอร์ ซึ่งเป็นสีขาว กับ สีม่วง จนประสบความสำเร็จมีนักท่องเที่ยวจองเข้ามาชมความสวยงามเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ยังสามารถกระจายนักท่องเที่ยวไปยังสวนอื่นๆ ที่มีความพร้อมเปิดสวนให้นักท่องเที่ยวเข้าไปถ่ายรูป สร้างรายได้ให้กับชุมชนได้อีกทางหนึ่ง
โดยปีนี้สวนไอเลิฟฟาวเวอร์ฟาร์มได้ปรับรูปแบบให้มีความน่าสนใจ เพิ่มสีสันในสวนให้มากขึ้น จึงได้นำดอกสร้อยไก่ นำเข้าจากญี่ปุ่น เลือกสีที่สดใสเข้ามาปลูก นอกจากนั้นยังได้เตรียมปลูกมากาเร็ต ข้าวสาลี และกำลังปลูกดอกคาโนร่า ซึ่งนำเข้ามาจากเกาหลี เพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้กับนักท่องเที่ยว
ขณะเดียวกัน ปีนี้ทั่วโลกต่างได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นักท่องเที่ยวชาวไทย ไม่สามารถเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศได้ จึงเชื่อว่าในปีนี้ จะมีนักท่องเที่ยวชาวไทยให้ความสนใจเข้ามาท่องเที่ยวสวนดอกไม้ในพื้นที่ ต.เหมืองแก้ว เพิ่มมากขึ้น สำหรับสวนไอเลิฟฟาวเวอร์ฟาร์มขณะนี้มียอดรวมนักท่องเที่ยวที่จองเข้ามาในช่วง 5 เดือนหลังจากนี้ประมาณ 20,000 คน ซึ่งสัปดาห์แรกที่เปิดสวนมีการจองเข้ามาเต็มแล้ว โดยสวนเปิดให้เข้าชมวันละ 400 คน เท่านั้น เพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่หนาแน่นมากเกินไป จากการเก็บสถิตินักท่องเที่ยวที่บริเวณลานจอดรถของชุมชนเมื่อปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในชุมชนเฉลี่ยวันธรรมดาวันละไม่กว่า 3,000 -5,000 คน ส่วนวันหยุดนักขัตฤกษ์ และเสาร์ อาทิตย์ มีนักท่องเที่ยวหมุนเวียนในชุมชนไม่ต่ำกว่าวันละ10,000 คน โดยเมื่อปีที่ผ่านมาคาดว่ามีเงินหมุนเวียนจากการจำหน่ายดอกไม้และการท่องเที่ยวสวนดอกไม้ ที่ ต.เหมืองแก้ว ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
โดยในปีนี้หากนักท่องเที่ยวเดินทางเข้มาท่องเที่ยวที่สวน I Love Flower Farm สามารถนำหางบัตรไปรับสวนลดร้อยละ20-30 ได้ที่ สวนเสื้อ ไนท์ซาฟารี และสวนพฤษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ เพื่อเป็นการกระจายรายได้และกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เพิ่มขึ้น
สำหรับการเข้าเยี่ยมชมสวนดอกไม้ไอเลิฟฟาวเวอร์ฟาร์ม สามารถบุ๊กกิ้งผ่านคิวอาร์โค้ด หรือทางเพจเฟซบุ๊ก I LOVE FLOWER FARM เปิดตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2563 ถึง 31 มีนาคม 2564 เวลาเปิด 08.00 – 17.00 น.ทุกวัน เสียค่าเข้าชมสวนคนละ 70 บาท (รวมค่าขนมพื้นบ้าน และน้ำสมุนไพรตามฤดูกาล ) ค่าบริการรถพ่วงจากลานจอดรถ 20 บาท
