(มีคลิป)
พาขึ้นเหนือไปจังหวัดเชียงใหม่ รับประทานเมนูอาหารจากดอกไม้อินทรีย์ ที่บ้านสวนวสุธารา ในสไตส์โอมากาเสะ ลูกค้าแห่จองคิวแน่นไปถึงเดือนตุลาคม
ชุดเวลคำดิ้งที่ประกอบไปด้วย น้ำอัญชัน ผลไม้ตามฤดูกาล ที่ประดับตกแต่งอย่างสวยงามด้วยดอกไม้นานาชนิดถูกยกมาเสริฟ์ให้ลูกค้าที่เข้ามารับประทานอาหารที่บ้านวสุนธารา สวนเกษตรอินทรีย์ & โฮมสเตย์ ในอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนที่เมนูต่อมาจะเป็นเมี่ยงคำดอกไม้ ที่นำดอกไม้อินทรีย์ที่ปลูกภายสวนมาทำเป็นเมี่ยงคำ จัดอยู่ภายในแก้วอย่างสวยงามเรียงรายอยู่ในถาดเข้ากันดีมากเมื่อห่อใบชะพลู แล้วใส่ดอกไม้ ที่มีสารพัดดอก ไม่ว่าจะเป็น ดอกกุหลาบ อัญชัน ดาวเรือง ดอกอ่อมแซบ ตามด้วยกุ้งแห้ง หอมแดง มะพร้าวคั่ว ขิง มะนาว พริกขี้หนู ถั่วลิสงที่อยู่โถสวยงาม หลายคนเมื่อเห็นก่อนรับประทานต้องพากันถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก อาหารอีกเมนูที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้านใครมาต้องลิ้มลองคือ
ข้าวยำดอกไม้ ซึ่งเชฟตกแต่งจานมาอย่างสวยงาม ความพิเศษของข้าวยำ คือข้าวที่ใช้ทำข้าวยำ ที่มีทั้งหมด 5 สายพันธุ์ คือ ข้าวหอมไชยยา ข้าวหอมนิล ข้าวสังข์หยด ข้าวสินเหล็ก และข้าวกล่ำ ที่เพาะปลูกเอง และเป็นข้าวนาปีที่ปลูกเพียงปีละครั้ง จึงมีคุณค่าทางอาหารและโภชนาการสูง และมีรสชาติที่อร่อย ส่วนดอกไม้ที่นำมาตกแต่งในจานข้าวยำ เป็นดอกไม้อินทรีย์ที่ปลูกในสวนข้างบ้าน มีทั้งหมด 8 ชนิด คือ ดอกดาวกระจาย ดอกหางนกยูงไทย ดอกอัญชัน ดอกอ่อมแซบ ดอกฟอร์เก็ตมีน็อต ดอกกุหลาบ/ดอกดาวเรือง และดอกยี่สุ่น ตามด้วยใบมะกรูดซอย และผักสมุนไพร
ก่อนรับประทานต้องคลุกเคล้าทุกอย่างในจานให้เข้ากัน และราดด้วยน้ำบูดู นายวิลาศ จุลกัลป์ อายุ 57 ปี เชฟและเจ้าของบ้านวสุนธารา สวนเกษตรอินทรีย์ แอนด์ โฮมสเตย์ เล่าว่า จุดเริ่มต้นเริ่มจากสิ่งที่ชอบ คือเป็นคนชอบทำอาหารทานเอง เวลาเราทานอาหารเราก็ต้องการรสชาติของเรา ต้องลงมือทำเองถึงจะได้รสชาตินั้น แล้วอีกอย่างหนึ่งเราก็มีวัตถุดิบอยู่แล้ว เราไม่ต้องไปซื้อหาที่ไหนมีอยู่ทั่วบ้านรอบบ้านอยู่แล้ว เราใช้แค่เวลาไปเก็บ แล้วเราสามารถเนรมิตรเมนูขึ้นมาเองได้ แล้วอีกอย่างที่สำคัญมันเป็นอาหารที่ปลอดภัยที่เรารู้ว่าเราใส่อะไรลงไปบ้าง เพราะเราไม่ใส่ผงชูรสคือตรงนี้เป็นจุดสำคัญคือสุขภาพต้องมาก่อน โดยการใช้ชีวิตเริ่มจากความพอเพียงก่อน เพราะว่าถ้าเราพอใจในสิ่งทีมี และสุขกับสิ่งที่มี ซึ่งจะตอบโจทย์โดยเฉพาะสถานการณ์โควิด 19 ขณะนี้ทุกคนก็ต่างกลับไปอยู่บ้านของตัวเอง แต่ที่นี้เราอยู่ในสวนของเราบนพื้นที่ 14 ไร่ ที่มีพืชผักสวนครัวดอกไม้อินทรีย์ ผักอินทรีย์ที่ปลูกเอง แล้วเราทำไมไม่ทำให้มันเกิดรายได้ แทนที่จะนำเงินในบ้านเราออกไปซื้ออาหารใช้จ่าย ทำไมไม่ให้เงินไหลเข้ามา หลังจากนั้นเขาจึงมีแนวคิดนี้ขึ้นมา เริ่มจากที่ลูกค้ามาพักที่โฮมสเตย์ของเขาต้องการเก็บผัก จับปู จับปลา ที่นี้เราก็ต้องทำอาหารและลูกค้าเห็นทุกกระบวนการที่เขาทำอาหาร จึงทำให้ลูกค้าเริ่มซึมซับและชื่นชอบรสชาติอาหารของเขา
ซึ่งสดและใหม่จึงมีการบอกปากต่อปาก ส่วนการที่นำดอกไม้อินทรีย์มาประกอบเป็นอาหารนั้น คือจากเดิมเขาทำเกษตรอินทรีย์อยู่แล้วเกษตรกรแต่ละคนก็ปลูกผักอินทรีย์ชนิดเดียวกัน ซึ่งเราเป็นเกษตรกรรายย่อยทำให้บางทีขายไม่ได้ ทำให้เขาต้องสร้างความแตกต่าง ดังนั้นจึงได้นำดอกไม้ไปวางบนผักอินทรีย์ พบว่าได้รับการตอบรับที่ดีและขายผักได้ดีขึ้นด้วย และสนใจในผักอินทรีย์มากขึ้น และถามว่ารับประทานได้ไหมเขาก็แนะนำ พอคนรู้มากขึ้นก็เริ่มเป็นที่ชื่นชอบ ดังนั้นจึงได้มาคิดค้นนำดอกไม้ที่ปลูกมาตกแต่งอาหารก่อนจะเข้าไปศึกษาว่าดอกไม้ชนิดไหนกินได้บ้าง เพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของอาหารไม่ใช่ไม้ประดับจานให้สวยงามเท่านั้น จากไม้ประดับจึงกลายมาเป็นเมนู เมี่ยงคำและข้าวยำ
ส่วนเมนูอื่นก็จะเป็นส่วนประกอบอย่างเช่นขนมจีนน้ำยา ใส่ทุกดอกลงไปที่นี้จะใส่ผักสมุนไพรเยอะก็จะกลายเป็นน้ำขนมจีนสีสัน ทำให้เป็นที่ตอบโจทย์ และชื่นชอบของลูกค้าแวะเวียนมารับประทานอาหารที่นี้กันอย่างไม่ขาดสาย ก่อนหน้านี้กลุ่มลูกค้าหลักของร้านหรือ ชาวญี่ปุ่นกว่าร้อยละ 90 แต่หลังโควิด-19 แพร่ระบาด ลูกค้าญี่ปุ่นก็หายไปทั้งหมด และตอนนี้กลุ่มลูกค้าหลัก
เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย สโลแกนของร้านนั้น คือนั่งกินนอนกิน จะเห็นได้จากโต๊ะอาหารที่นั่งสบายๆ ร่มรื่นชมสวนดอกไม้ สวนผักอินทรีย์มีชิงช้าไว้ให้นอน เสมือนอยู่บ้านของตัวเอง โดยร้านจะรับลูกค้าเพียงวันละ 1 โต๊ะ ในจำนวนไม่เกิน 10 คนตอนนี้มีลูกค้าจองคิวยาวไปถึงต้นเดือนตุลาคม 2565 ซึ่งราคาอาหารนั้น จะคิดหัวละ 999 บาท มีเมนูอาหารทั้งหมด 5 – 6 เมนู ใน 1 คอส เมนูหลักๆ คือ เมี่ยงคำ และข้าวยำ ส่วนเมนูอื่นๆ เช่น ขนมจีนน้ำยา และของหวาน สำหรับใครที่สนใจจะไปชิม ดอกไม้กินได้ที่บ้านสวนวสุธารา โทรไปจองได้ที่เบอร์โทร 085 0372509 หรือเฟซบุ๊ก Wilat Baan Wasunthara หรือถ้าใครไม่สะดวกไปที่บ้านสวน ต้องการจะชิมเมี่ยงคำและข้าวยำดอกไม้ ที่ตลาดจริงใจมาร์เก็ต ในตัวเมืองเชียงใหม่ เปิดทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ตั้งแต่เช้าถึงเที่ยง
