ชิมอาหารพื้นเมืองรสชาติต้นตำหรับกว่า 200 รายการ ที่ร้านเมืองไม้ใต้ต้น ชูเมนูซิกเนเจอร์หาทานยาก ยำภาพยนตร์ น้ำผัก และน้ำเมี่ยง หรือชิมเมนูสุดแซ่บ ตำส้มโอทับทิมสยามใส่น้ำปู๋ ร้านตกแต่งในบรรยากาศบ้านไม้เก่าโบราณ ท่ามกลางสวนสวยและต้นไม้ใหญ่ช่วยเพิ่มโอโซนความสดชื่น
อาหารพื้นเมือง เป็นอีกเมนูที่หลายคนชื่นชอบ และอยากลิ้มรสชาติอาหารพื้นเมืองต้นตำหรับ หรือเมนูที่หาทานได้ยาก วันนี้ผู้สื่อข่าวพาไปที่ร้าน “เมืองไม้ใต้ต้น” ที่ตั้งอยู่ในอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ร้านนี้มีสโลแกนสั้นๆว่า อาหารเหนือลำ ส้มตำแซ่บเว่อร์ ด้วยเมนูอาหารพื้นเมืองรสชาติดั่งเดิม ผสมผสานกับอาหารอีสานแซ่บๆ กว่า 200 รายการ
เมนูอาหารพื้นเมืองที่เป็นซิกเนเจอร์ คือ ยำภาพยนตร์ หรือ ยำหนังควาย ที่ใช้หนังควายมาต้มจนสุกคลุกเคล้าด้วยพริกและเครื่องเทศ , น้ำผัก ทำจากผักกาดที่ผ่านการนึ่งแล้วนำไปหมัก , น้ำเมี่ยง ที่ทำจากใบชา ซึ่งหลายคนอาจไม่รู้ว่า ใบชา หรือ ใบเมี่ยง สามารถนำมาทำอาหารได้ วิธีทำคือนำใบชามาหมักเคี้ยวจนได้ที่ จากนั้นนำไปผัดใส่หมูสับจนหอม ถือเป็นเมนูที่หาทานได้ยากเพราะวิธีทำค่อนข้างยุ่งยาก
นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารพื้นเมืองที่ลูกค้านิยมสั่งกินเช่น ปูอ่อง ที่ทำจากมันปูนาผสมกับไข่แดง ปั้นข้าวเหนียวร้อนๆจิ้มกินได้รสชาติกลมกล่อมลงตัว หรือ ถั่วเน่าเมอะ , จิ้นส้มหมกไข่ และแกงพื้นเมืองรสชาติเข้มข้น เช่น แกงฝักหม่นใส่ไก่ แกงหยวกใส่ไก่ แกงผักเชียงดาปลาแห้ง แกงขนุน แกงอังเล จอผักกาด และตำกุ้ง ที่มีรสชาติเผ็ดร้อนจากเครื่องเทศ หรือ ออเดิร์ฟเมือง ที่มีน้ำพริกหนุ่ม หรือน้ำพริกอ่อง ทานคู่กับผักสมุนไพรสดๆ หรือผักต้ม รวมทั้งหมูแดดเดียว และหมูทอดหน้าตั้ง
ขณะเดียวกันร้านเมืองไม้ใต้ต้น ยังมีเมนูอีสานสุดแซ่บ สำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบ เช่น ส้มตำขันโตก พร้อมเครื่องเคียง เช่น แคบหมู ปลากรอบ ไข่ต้ม ไข่เยี่ยวม้า เส้นขนมจีน ข้าวโพด เส้นหมี่ เส้นมาม่า ซึ่งจะเสิร์ฟมาบนขันโตกไม้โบราณอายุกว่า 100 ปี ที่เจ้าของร้านซื้อมาจากประเทศลาว ในราคา 25,000 บาท
ส่วนอีกหนึ่งเมนูสุดแซ่บที่ทางร้านแนะนำ คือ ตำส้มโอใส่น้ำปู๋ ที่ใช้ส้มโอทับทิมสยาม จากสวนป้าสมจิต จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งมีราคาสูงถึงลูกละ 400 บาท แต่ทางร้านขายเมนูนี้ในราคาเพียง 99 บาทเท่านั้น สาเหตุที่เลือกใช้ส้มโอทับทิมสยาม เพราะมีรสชาติหวานฉ่ำ เวลาแกะเนื้อจะแห้งแต่กรอบ และหอม เมื่อนำมาตำและใส่น้ำปู๋ รสชาติกลมกล่อมลงตัว
นางสาวอัมพร พันธุ์ศรี หรือ พี่แมว เจ้าของร้านเมืองไม้ใต้ต้น เล่าว่า เดิมเคยทำสวนอยู่ 4 – 5 ปี ต่อมาพี่สาวชักชวนมาเปิดร้านอาหารพื้นเมืองและอาหารอีสานในสวน แต่ยังไม่ได้ตอบตกลง กระทั่งมาเห็นพื้นที่บ้านไม้เก่าโบราณ และข้าวของเครื่องใช้โบราณอยู่หลายชิ้น จึงตอบตกลงและมาช่วยพี่สาวทำร้านอาหารพื้นเมืองในโครงการเมืองไม้ใต้ต้น
หลังเปิดตัวเมื่อ 3 เดือนก่อน ได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีเกินความคาดหมาย ทั้งที่ทางร้านยังไม่ได้โฆษณา ลูกค้าส่วนใหญ่จะบอกต่อกันแบบปากต่อปาก เพราะชื่นชอบในรสชาติอาหารพื้นเมืองแบบดั่งเดิม บางเมนูหากินยากแล้ว และบรรยากาศของร้านที่ตกแต่งอย่างสวยงามลงตัว ผสมผสานบ้านไม้เก่าโบราณ และยุงข้าว หรือ หลองข้าว ที่ปลูกอยู่ท่ามกลางต้นไม้น้อยใหญ่ และตกแต่งประดับประดาด้วยดอกกล้วยไม้หลากหลายสีสัน จนกลายเป็นพร็อพสำหรับถ่ายภาพและเช็คอิน
สำหรับเมนูที่ลูกค้าชื่นชอบและไม่พลาดต้องสั่งทุกครั้ง คือ หมูแดดเดียวเสิร์ฟคู่น้ำจิ้มแจ่ว หมูทอดหน้าตั้ง ปูอ่อง ยำภาพยนตร์ หรือ ยำหนัง น้ำผัก น้ำเมี่ยง ถั่วเน่าเมอะ ตำกุ้ง จิ้นส้มหมกไข่ และตำส้มโอใส่น้ำปู๋ หรือส้มตำรสชาติจัดจ้านที่เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงบนขันโตกโบราณ ในราคาเพียง 599 บาท และเมนูเครื่องดื่มสมุนไพร เช่น น้ำใบเตยหอม นำใบบัวบก และน้ำอัญชัน เสิร์ฟมาในเยือกขนาดใหญ่ ในราคาเพียง 49 บาทเท่านั้น
พี่แมว บอกว่า ตนเองชอบกินอาหารพื้นเมืองมาตั้งแต่เด็ก เพราะเห็นแม่ทำจึงจดจำสูตรและวิธีการจากแม่มา โดยเน้นสูตรและรสชาติแบบดั่งเดิม และที่ผ่านมาก็เคยมีประสบการณ์ทำร้านอาหารอีสาน ส้มตำและยำมาก่อน ชื่อร้านตำแซ่บเว่อร์ บายพี่แมว จนโด่งดัง เพราะเป็นแม่ค้าส้มตำที่ใช้เครื่องสำอางลาแมร์ จนโน้ต อุดม แต้พานิช พูดแซวในทอร์คโชว์เดี่ยวไมโครโฟน 8 มาแล้ว แต่ปัจจุบันผันตัวมาเปิดร้านอาหารพื้นเมือง และอีสาน ในโครงการเมืองไม้ใต้ต้น
ลูกค้าที่สนใจอยากกินอาหารพื้นเมืองรสชาติดั่งเดิม และอาหารอีสานรสชาติจัดจ้าน ร้านเมืองไม้ใต้ต้น ตั้งอยู่บนถนนสายสันกำแพง-แม่ออน บริเวณสามแยกป่าไผ่ (ขาเข้าตัวเมือง) ตำบลบวกค้าง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ หรือโทรศัพท์สอบถามเส้นทางได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 083 577 6677 หรือเพจเฟซบุ๊ก เมืองไม้ใต้ต้น ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น.
พี่แมวทิ้งท้ายไว้ว่า หากลูกค้ามาที่ร้านและสั่งตำขันโตก ถ้าบอกว่า มาตามรีวิวจากรายการ จะลดราคาให้จากโตกละ 599 บาท เหลือเพียงโตกละ 399 บาทเท่านั้น