ปัจจุบัน .. สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกยังไม่คลี่คลายลง และข่าวสารที่ติดตามในแต่ละวัน อาจจะทำให้หลายๆ คนเกิดความวิตกกังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวเชียงใหม่ กับข่าวกรณีชายสัญชาติอินเดีย ตรวจพบเชื้อโควิด 19 ขณะไปตรวจร่างกายเพื่อขอใบอนุญาตทำงาน และยังมีการเดินทางไปในหลายจังหวัด ได้แก่ จังหวัดกระบี่ ภูเก็ต เชียงใหม่ สุโขทัย ทำให้หลายคนอาจมีความกังวลใจว่าจะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสร้ายนี้อีกครั้ง
และถึงแม้ว่าสถานการณ์ในประเทศไทยจะมีภาพรวมที่ดีขึ้น ยอดผู้ติดเชื้อต่ำ แต่เราก็ยังไม่ควรประมาท ยังคงต้องเฝ้าระวังตัวเองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) เรายังต้องปฏิบัติดังนี้
1. ใส่หน้ากากอนามัย พกเจลล้างมือตลอดเวลา เพราะเรามองไม่เห็นเชื้อโรค และก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่ารอบๆ ตัวเรามีใครที่มีความเสี่ยงของโรค Covid-19 อยู่บ้าง เพราะฉะนั้น วิธีป้องกันที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะออกไปไหน ควรใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา และต้องใส่ให้ถูกวิธีคือ ปิดทั้งปากและจมูกนะคะ ไม่ใช่ว่าปิดแค่เฉพาะปาก หรือเอาไปคาดไว้ที่คาง เพราะแบบนั้นจะไม่ต่างจากการไม่ใส่หน้ากากเลย และเสี่ยงรับเชื้อเข้าเต็มๆ เลยล่ะ ที่สำคัญ ควรพกเจลล้างมือติดตัวตลอดเวลา เพื่อที่ว่าจะได้ใช้ทำความสะอาดทุกครั้งที่หยิบจับอะไร
2. กลับบ้านมาให้รีบอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า เมื่อออกจากบ้านทุกวัน นอกจากตามร่างกายแล้ว เชื้อโควิดก็ยังสามารถเกาะติดตามเสื้อผ้าของเราได้นานถึง 2 วัน เชียวนะ ถ้าดองเสื้อผ้าไว้ทุกวัน เชื้อโรคคงต้องหมักหมมอยู่ในตะกร้าเสื้อผ้าแน่ๆ เพราะฉะนั้น กลับบ้านมาทุกครั้ง สิ่งแรกที่ควรทำก็คือการรีบอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อเป็นการทำความสะอาดร่างกายที่อาจมีเชื้อโรคติดตามตัว จากนั้นจึงแยกเสื้อผ้าไปซักให้เรียบร้อย เพราะเชื้อโควิด-19 นั้น ถ้าเจอกับน้ำยาซักผ้า ก็ไม่สามารถอยู่รอดได้แล้วจ้า
3. หมั่นทำความสะอาดบ้านเป็นประจำ ถึงแม้เราจะรู้สึกสบายดี ไม่มีไข้ ไม่เจ็บคอ แต่เราก็ไม่อาจมั่นใจได้ว่าเราไม่มีเชื้อโรคอยู่ในตัว เพราะโควิด-19 สามารถอาศัยอยู่ในร่ายกายของเราได้ แบบที่เราอาจจะไม่แสดงอาการเลยด้วยซ้ำ แต่ในขณะที่เราอยู่บ้านร่วมกับคนในครอบครัว คนในครอบครัวก็อาจจะมีเชื้อโควิด-19 อยู่ในร่างกายด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้น การป้องกันภายในบ้านที่ดีที่สุด ก็คือการหมั่นทำความสะอาดบ้านเป็นประจำ นอกจากการกวาดพื้น ดูดฝุ่น อาจจะเน้นในจุดที่เป็นจุดสัมผัสร่วมกันบ่อยๆ เพิ่มขึ้นมาด้วย เช่น ลูกบิดประตู รีโมททีวี โซฟา เก้าอี้ เตียงนอน ฯลฯ โดยอาจจะใช้ผ้าชุบน้ำยาทำความสะอาดคอยเช็ดเป็นประจำ แค่นี้ก็อุ่นใจได้แล้วล่ะ
4. เว้นระยะห่าง Social Distancing การรักษาระยะห่างระหว่างตัวเองและผู้อื่น เป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำ ไม่ว่าจะได้สัมผัสเชื้อหรือไม่ ซึ่งรวมถึงการหลีกเลี่ยงการจับมือ เลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกัน ควรอยู่ห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 2 เมตร เลี่ยงไปในสถานที่แออัดหรือเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และสิ่งสำคัญที่สุดคือการพักอยู่บ้านหากรู้สึกไม่สบาย การเว้นระยะห่างทางสังคม จะช่วยชะลอการกระจายของไวรัส
5. พยายามอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก เป็นไปได้ที่โควิด-19 จะแพร่กระจายในอากาศภายใต้สภาพการณ์ต่างๆ อย่างเช่นการที่สภาพอากาศภายในไม่ถ่ายเท เช่น สถานที่ปิด แออัด มืดๆ เย็นๆ ชื้นๆ เป็นต้น การหาวิธีระบายอากาศให้ดีขึ้นเป็นเพียงวิธีหนึ่งในการลดความเสี่ยงของโควิด-19 เท่านั้น เราควรใช้วิธีการระบายอากาศควบคู่ไปกับแนวทางปฏิบัติอื่นๆ เช่นการเว้นระยะห่างทางสังคม การสวมหน้ากากอนามัย การทำความสะอาดพื้นผิว และการล้างมือบ่อยๆ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติตัวตามมาตรการป้องกันเชื้อโควิด-19 อย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่ทุกคนพึงกระทำร่วมกัน รวมทั้งการเฝ้าระวัง และสังเกตอาการตัวเองนั้น เป็นสิ่งสำคัญ หากระหว่างสังเกตพบว่ามีอาการเข้าข่าย หรือมีปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ สามารถเข้ารับการตรวจ และรักษาได้ทันท่วงทีอีกด้วย เพื่อป้องกันการติดเชื้อและแพร่กระจายเชื้อทั้งต่อตัวเอง ครอบครัว คนรอบข้าง และสังคม รวมทั้งไม่ควรวิตกกังวลมากไป เรายังสามารถปฏิบัติตัวในชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นปกติ เพราะในขณะนี้ แม้ผู้ติดเชื้อจะเคยเดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่ แต่ยังไม่มีรายงาน หรือปรากฏว่าผู้ที่เกี่ยวข้องนั้นติดเชื้อโควิด-19 ประชาชนชาวเชียงใหม่ ยังคงอุ่นใจ และปลอดภัยจากเชื้อไวรัสนี้
ทั้งนี้ โรงพยาบาลลานนา เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลเอกชน ของจังหวัดเชียงใหม่ ที่เข้าร่วมโครงการ สปสช. ตรวจแล็บโควิด-19 เชิงรุกนอกสถานที่ ไม่เสียค่าใช้จ่าย ระยะเวลาโครงการตั้งแต่วันนี้ จนถึง 31 ธันวาคม 2563 นี้เท่านั้น
หากสถานประกอบการ หรือหน่วยงานใด เข้าเกณฑ์กลุ่มเสี่ยงในการเฝ้าระวังการติดเชื้อระลอก 2 จากประเทศเพื่อนบ้าน และต้องการโรงพยาบาลลานนา ไปออกหน่วยคัดกรองตรวจโควิด-19 สามารถติดต่อประสานงาน ได้ที่ ศูนย์ตรวจสุขภาพ โรงพยาบาลลานนา โทร.052 134 777 ในเวลาราชการ