เช้าวันนี้ (18 พ.ย.) ที่ห้องประชุม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ผู้ประกอบการ ที่พักและรีสอร์ บนดอยม่อนแจ่ม รวมทั้งผู้ประกอบการในพื้นที่ทั้งปางช้าง และสวนดอกไม้ กว่า 250 ราย เข้าร่วมการอบรม’’ โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชีวิตใหม่ในพื้นที่อำเภอแม่ริม” เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้ประกอบการ ทั้งด้านบริการที่พัก ความปลอดภัย หลังเมื่อช่วงเช้าวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา เกิดไฟไหม้บ้านพักคนงานของม่อนอิงดอย จนลุกลามไหม้รถตู้ และรถยนต์ของนักท่องเที่ยวเสียหายรวม 4 คัน สร้างความตื่นตระหนัก และความไม่มั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว จนส่งผลกระทบกับบรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวระหว่างวันที่ 19 -22 พ.ย.นี้
นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม เปิดเผยว่า การที่จัดอบรมครั้งนี้เพื่อต้องการให้ความรู้และสร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้งหมดในพื้นที่อำเภอแม่ริม ทั้งการบริการ การรักษาความปลอดภัย ร่วมไปถึงด้านอาหาร ให้มีมาตรฐานไม่เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว
ด้านนายวิชิต เมธาอนันต์กุล ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรม่อนแจ่ม กล่าวว่า หลังเกิดไฟไหม้ที่ม่อนแจ่มทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ ได้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ พร้อมเน้นย้ำกับผู้ประกอบการทุกรายให้ค่อยสอดส่องดูแลความปลอดภัย โดยได้นำเงินของกลุ่มวิสาหกิจ จ้าง ชรบ.ในการดูแลความปลอดภัยทั้งตัวนักท่องเที่ยวและทรัพย์สิน
ส่วนการกินหมูกะทะบนดอย ก็ได้เน้นย้ำให้ทุกคนห้ามนำเตาหมูกระทะเข้าไปในที่บ้านพักและเต้นส์ รวมทั้งให้รับประทานให้เสร็จภายในเวลา 21.00 น. ส่วนด้านไฟฟ้า ก็ได้ขอความร่วมมือทุกคนให้งดใช้ไฟฟ้า 22.00 น. เนื่องจากกระแสไฟฟ้ามีจำกัด
สำหรับที่พักบนดอยม่อนแจ่มมีทั้งบ้านพัก และเต้นส์ มีทั้งหมด 1,000 หน่วย โดยในช่วงวันหยุดยาว 4 วัน
ตั้งแต่ 19 -22 พ.ย. ที่พักถูกจองเต็มแล้วกว่าร้อยละ 99 คาดว่าจะมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
นายวิชิต กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หากนักท่องเที่ยวไม่ได้จองที่พักควรหลีกเลี่ยงที่จะขับรถขึ้นไป เพราะบนดอยจะรถติดมาก อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวสามารถพักและท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆในอำเภอแม่ริมแทนได้ และแนะให้มาเที่ยวในวันปกติแทน เนื่องจากดอยม่อนแจ่มอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี