รอบบ้านรอบเมือง » เชียงใหม่ได้ใช้มาตรการ Bubble & Seal เข้ามาดูแลเรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่

เชียงใหม่ได้ใช้มาตรการ Bubble & Seal เข้ามาดูแลเรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่

29 เมษายน 2021
418   0

Spread the love

เชียงใหม่ได้ใช้มาตรการ Bubble & Seal เข้ามาดูแลเรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่

 


นายแพทย์กิตติพันธุ์ ฉลอม ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึง สถานการณ์การระบาดโควิด-19 ในเรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่ หลังพบผู้ต้องขังในแดนแรกรับติดเชื้อโควิด-19 และเกิดการแพร่ระบาดไปยังแดนอื่นภายในเรือนจำ ทำให้ผู้ต้องขังและผู้คุมติดเชื้อ COVID-19 แยกเป็นผู้ต้องขัง 189 ราย และเจ้าหน้าที่เรือนจำ 2 ราย รวมเป็น 191 ราย ซึ่งขณะนี้ผู้ต้องขังที่ติดเชื้อรักษาตัวที่ รพ.สนามเรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนเจ้าหน้าที่เรือนจำรักษาตัวที่โรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2564 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับแจ้งจาก รพ.แม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ มีการพบผู้ต้องขังในเรือนจำกลางเชียงใหม่ ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 37 ราย ทั้งหมดเป็นผู้ต้องขังรับใหม่ที่แยกอยู่ในห้องกักตัวแรกรับ จากจำนวนทั้งหมด 82 ราย ที่ได้รับการเก็บตัวอย่างตรวจตามแนวทางของเรือนจำ ทีมสอบสวนโรค สสจ.เชียงใหม่ ร่วมกับ สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคที่ 1 โรงพยาบาลแม่แตง และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอแม่แตง ได้ดำเนินการสอบสวนและควบคุมโรค พบว่าการระบาดเกิดขึ้นในแดน 4

 

จากผู้ต้องขังรับใหม่ ที่ถูกกักกันในระยะเวลา 14 วัน ก่อนเกิดการระบาดไปยังผู้ต้องขังและผู้ช่วยเหลือ และมีการติดต่อไปยังผู้ช่วยเหลือในแดนอื่นๆ ผู้ต้องขังบางส่วนมีการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อในห้องกักกันที่เกิดการระบาดในระยะท้ายของการกัก ซึ่งผลตรวจก่อนย้ายแดนเป็นลบ เนื่องจากยังอยู่ในระยะฟักตัว จากนั้นถูกย้ายไปยังแดนอื่นๆ จึงทำให้เกิดการระบาดต่อในผู้ต้องขังร่วมห้อง นอกจากนี้ยังพบการระบาดอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้ต้องขังยังคงต้องทำกิจกรรมร่วมกันในช่วงเวลากลางวัน ทั้งในแดนตนเอง และกิจกรรมในแดนอื่นๆ เช่น แดนการศึกษา ที่มีผู้ต้องขังกลุ่มหนึ่งจากแดน 5 และ 7 มาทำกิจกรรมร่วมกัน
ผู้ต้องขังในเรือนจำ ถือเป็นกลุ่มบุคคลเฉพาะที่จะต้องมีการบริหารจัดการดูแลเพื่อเฝ้าระวังการแพร่ระบาด ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ได้ใช้มาตรการ Bubble & Seal เข้ามาดูแล โดยมีการจำกัดการเคลื่อนย้าย แยกผู้ต้องขังกลุ่มเปราะบางออกมาดูแลเฉพาะ เช่น ผู้ต้องขังที่มีอายุมากกว่า 55 ปี, ผู้ต้องขังที่มีโรคประจำตัว ผู้ต้องขังกลุ่มนี้ หากพบว่ามีอาการป่วย ไข้ ไอ เจ็บคอ มีเสมหะ มีน้ำมูก หอบเหนื่อย หายใจลำบาก ความเข้มข้นออกซิเจนในเลือดต่ำ 95 ก็จะคัดกรองมารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หากพบว่ามีการติดเชื้อโควิด-19 ก็จะถูกส่งตัวรักษาที่ รพ.สนามเรือนจำกลางเชียงใหม่ และหลังจากทำ Bubble and Seal ครบ 14วัน(7 พ.ค. 2564) ก็จะมีการตรวจหาภูมิคุ้มกันให้กับผู้ต้องขัง เพื่อเป็นการประเมินสถานการณ์ การเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ สำหรับกลุ่มที่ไม่มีภูมิคุ้มกันจะถูกตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อีกครั้งเมื่อครบ 28 วันหลังการทำ Bubble & Seal พร้อมประเมินสถานการณ์ลดระดับความเข้มข้นของการควบคุม และคาดว่าสถานการณ์จะกลับมาสู่ปกติได้โดยเร็ว
หลักการ Bubble and Seal คือ
Seal “ปิดผนึก” จะใช้กับสถานที่ที่เฉพาะ สามารถจำกัดการเคลื่อนไหวของคน ไม่ต้องเดินทางออกนอกพื้นที่ ลดการแพร่เชื้อ คาดว่าใช้เวลา 28 วัน จะสามารถควบคุมโรคได้
Bubble หรือเรียกว่าเป็น “เขตเฝ้าระวังพิเศษ” จะใช้กับสถานที่ที่ มีการจัดหาที่พักให้อยู่ในสถานที่ที่กำหนด มีการตีกรอบพื้นที่ชัดเจน


ทั้งนี้ขอให้ทุกคนมั่นใจหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวของ ได้ร่วมมือกันดำเนินการควบคุมโรคที่อยู่ในเรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่ ป้องกันไม่ให้มีการระบาดมาสู่ชุมชน กลุ่มผู้ต้องขังจะได้รับการดูแลตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข ขณะเดียวกัน ได้ขอความร่วมมือให้ญาติงดเดินทางไปเยี่ยมผู้ต้องขังในช่วงนี้ไว้ก่อน เพื่อลดโอกาสในการแพร่เชื้อ
สำหรับที่ผู้ต้องขังจำนวนหนึ่งที่จะพ้นโทษและได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ ซึ่งก่อนที่ผู้ต้องขังเหล่านี้จะสามารถกลับบ้านได้ จะต้องมีการคัดกรองอีกรอบ โดยจะให้เข้าไปสังเกตอาการ 14 วัน ที่ศูนย์บำบัดยาเสพติด ซึ่งเป็นสถานที่กักตัว Local Quarantine และเมื่อครบ 14 วันไม่มีอาการผิดปกติ จึงสามารถกลับบ้านได้