ผู้ช่วย ผบ.ตร.บินขึ้นเหนือด่วนแถลงยึดยาบ้าบิ๊กล็อตกว่า 11.1 ล้านเม็ด จับผู้ต้องหาได้ 2 ราย พบหญิงอายุ 25 เป็นผู้สั่งการ จ้างนักแข่งรถมาขับรถขนยาบ้า ลำเลียงจากชายแดนส่งขายให้นายทุน สารภาพรับได้รับค่าจ้างขน 2 แสนบาท
ของกลางยาบ้า 11.1 ล้านเม็ด และรถยนต์กระบะดัดแปลงเป็นรถขนของตู้ทึบ เป็นของกลางที่เจ้าหน้าที่นำมาแถลงข่าว ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 โดยมีพล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วยผู้ยัญชาการตำรวตแห่งชาติ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ทหาร ปปส.ภาค 5 และฝ่ายปกครองจังหวัดพะเยา ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ
การกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมตัวนายปรีดา สงวนหงส์ อายุ 29 ปี ภูมิลำเนาจังหวัดตราด พร้อมของกลาง คือ เฮโรอีน จำนวน 1,400 แท่ง น้ำหนักรวมประมาณ 491 กิโลกรัม รถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ เลขทะเบียน 70 9612 นครราชสีมา ที่ด่านตรวจจห้วยไร่ อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่
เบื้องต้นผู้ต้องหารับว่าเป็นกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดตราด รับจ้างลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือเข้าสู่พื้นที่ตอนใน
ต่อมาชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ได้ร่วมกันสืบสวนและแกะรอยกลุ่มเครือข่ายดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง กระทั้งชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ได้รับการประสานจาก ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ว่าเครือข่ายดังกล่าวจะเดินทางมาลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อส่งเข้าพื้นที่ชั้นในอีกครั้ง
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จึงสั่งการไปยังตำรวจภูธรจังหวัดพะเยา จัดกำลังติดตามเครือข่ายยาเสพติด กระทั่งช่วงกลางดึกของวันที่ 28 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่พบพบรถยนต์ ทะเบียน 2ฒท 551 กรุงเทพมหานคร ขับมาจากอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย มุ่งหน้ามา อำเภอภูซาง และ อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา จึงได้สะกดรอยติดตาม แต่รถยนต์คันดังกล่าวไหวตัว และขับหลบหนีหลุดการติดตามบริเวณ ตำบลหย่วน อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา
เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังออกค้นหาตามเส้นทางระหว่าง อำเภอภูซาง – อำเภอเชียงคำ – อำเภอจุน และอำเภอเชียงม่วน กระทั่งพบรถยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่ในสวนปาล์ม บริเวณตำบลสระ อำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา แต่ไม่พบคนขับ จึงออกติดตามจนพบนายธีรพล อรุณมาต หรือ ปุย อายุ 37 ปี เดินอยู่บริเวณถนนสายปง – เชียงม่วน ห่างจากจุดที่ตรวจพบรถยนต์ประมาณ 500 เมตร จึงควบคุมตัวมาสอบสวน
เบื้องต้นนายธีรพล ให้การรับว่าเป็นผู้ขับรถยนต์คันเลขทะเบียน 2ฒท 551 กรุงเทพมหานคร ร่วมกับ นางสาวเมทณี อำนวยพงษ์ หรือ เมย์ ลำเลียงยาเสพติดจากพื้นภาคเหนือเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ แต่ขณะขับรถลำเลียงยาเสพติดผ่านอำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ติดตาม จึงตรวจสอบยาเสพติดที่บรรทุกอยู่หลังรถ ก็พบยาบ้ากว่า 11.1 ล้านเม็ด ซึ่งมีจำนวนมากกว่าที่ตกลงว่าจ้างมาให้ขนเพียง 1 ล้านเม็ด จึงนำยาบ้าไปทิ้งบริเวณคูน้ำ ข้างที่ดินรกร้าง เขตตำบลหย่วน อำเภอเชียงคำ และจอดรถยนต์ทิ้งไว้ ก่อนหลบหนีไปแต่สุดท้ายก็ถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้
จากการตรวจภายตู้บรรทุกสินค้าด้านหลังรถพบยาบ้า จำนวน 56 กระสอบ รวมประมาณ 11,102,000 เม็ดจึงตรวจยึดไว้เป็นของกลางและได้ขยายผลจับกุมตัว นางสาว เมทณี อำนวยพงษ์ หรือเมย์ อายุ 25 ปี ภูมิลำเนาจังหวัดตราด และเป็นผู้สั่งการ ได้ที่เขตอำเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนนำตัวมาสอบสวนเพื่อขยายผล
ขณะที่นายธีรพล ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนรับจ้างขนเท่านั้น โดยตนมีอาชีพเป็นนักแข่งรถในพื้นที่จังหวัดตราด แต่ได้รับการว่าจ้างจากเครือข่ายขนยาเสพติดที่มีฐานยาเสพติดผลิตอยู่ในประเทศ ซึ่งมีเครือข่ายเป็นชนเผ่าม้งในอำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ติดต่อประสานให้ตนเองมารับยาบ้าจำนวน 1 ล้านเม็ด ตกลงค่าจ้าง 2 แสนบาท ไม่คิดว่าจะมียาบ้าจำนวนมากถึง 11.1 ล้านเม็ด
เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย นอกจากนี้ตำรวจจะขยายผลถึงผู้บงการ ซึ่งเป็นตัวการใหญ่ ที่สั่งการนางสาวเมทณี อีกครั้งหนึ่ง
ขณะเดียวกันเป็นที่น่าสังเกตว่าการลำเลียงยาเสพติดครั้งนี้ แต่ละกระสอบมียาเสพติดติดตราประทับหีบห่อไม่เหมือนกัน จากเดิมก่อนหน้านี้จะพบตราประทับสัญลักษณ์ 999 และสัญลักษณ์ Y สีเขียว แต่ยาบ้าล็อตนี้พบมีตราสัญลักษณ์ ม้า เพิ่มเติมด้วย ซึ่ง ปปส.ภาค 5 ระบุว่า ตามแนวชายแดนในประเทศเพื่อนบ้านมีโงงานผลิตยาบ้าหลายกลุ่ม ซึ่งเครือข่ายสามารถจะสั่งผลิตได้