รอบบ้านรอบเมือง » รวบเซียนพระชื่อดังเชียงใหม่หลอกเช่าพระเครื่องทางออนไลน์ส่งพระปลอมให้ลูกค้ามีผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท

รวบเซียนพระชื่อดังเชียงใหม่หลอกเช่าพระเครื่องทางออนไลน์ส่งพระปลอมให้ลูกค้ามีผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท

23 กันยายน 2020
1017   0

Spread the love

 

รวบตุ้ยกาดหลวงเซียนพระดังในเชียงใหม่เปิดเฟซหลอกให้เช่าบูชาพระเครื่อง มีผู้เสียหายหลงเชื่อจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท

เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 22 ก.ย. 63 พ.ต.อ.ณฐภณ แก้วกำเนิด ผกก.สภ.แม่โจ้ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.แม่โจ้ ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว นายสมรัก ปะระไทย อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 345 ถนนวังสิงห์คำ ต.ป่าตัน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ในฐานความผิด “ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค, ออกเช็คให้ใช้เงินมีจำนวนสูงกว่าจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ในขณะออกเช็คนั้น”

 

ในการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2563 ได้มีผู้เสียหายจำนวน 7 ราย เดินทางเข้าพบกับ ร.ต.อ.พงศ์พิพัฒน์ นันทวิสุทธิ์ พนักงานสอบสวน สภ.แม่โจ้ ว่าถูกนายสมรัก หรือฉายา ตุ้ย กาดหลวง หลอกลวงจากการเช่าบูชาพระ ทั้งการส่งมอบพระที่ไม่ตรงกับองค์ การหยิบยืมทรัพย์สินไปและไม่ส่งมอบคืน แต่จ่ายเงินเป็นเช็คกลับมาและเช็คไม่สามารถนำมาขึ้นเงินได้ ต่อมาทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและขอหมายจับของศาลแขวงเชียงใหม่ ที่ จ.337/2563 ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ออกติดตามจับกุม กระทั่งทราบว่านายสมรัก ได้เดินทางมาเพื่อพบลูกค้าบริเวณหน้าร้านฟินิกซ์ ตำบล หนองหาร อำเภอสันทราย จึงได้นำกำลังเข้าจับกุม

 

ต่อมาในช่วงเวลา 13.30 น. นายวีระชัย ไชยเจริญ หรือโจ๊ก ลำพูน ประธานสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทยจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายอิทธิพล ตันตินาคม และสมาชิกสมาคม ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ณฐภณ แก้วกำเนิด ผกก.สภ.แม่โจ้ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ หลังจากทราบว่าได้ทำการจับกุมตัวนายสมรัก หรือตุ้ยกาดหลวง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อยื่นหลักฐานเพิ่มเติม และมีการแจ้งความเพิ่มในคดีดังกล่าว

 

นายวีระชัย ไชยเจริญ หรือโจ๊ก ลำพูน ประธานสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทยจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า นายสมรัก อดีตเคยเป็นสมาชิกสมาคม และมีตำแหน่งในสมาคม ได้ใช้ชื่อเสียงของตนเองที่ได้จากสมาคมนั้นเปิดให้เช่าบูชาพระเครื่อง มีการเปิดเฟซบุ๊กเพื่อหลอกลวงหลายเฟซบุ๊ก ตนก็เคยถูกนายสมรัก มาเช่าบูชาพระเช่นเดียวกัน หนี้สินก้อนแรกราคา 180,000 บาท ตนก็ได้ยกให้ เพราะเห็นว่าเป็นรุ่นน้อง และสงสารทางครอบครัวของนายสมรัก ที่ได้เข้ามาพูดคุยและเจรจาให้ ตนจึงไม่เอาเรื่อง และยังคิดว่านายสมรัก จะกลับตัวและสร้างชีวิตใหม่ได้ และได้มาขอพระบูชาจากตนราคา 6 แสนบาท จำนวน 1 องค์ ตนก็ให้ไป เพื่อให้ต่อยอดในอาชีพ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้รับเงินกลับคืน พยายามติดต่อหลายครั้ง สุดท้ายก็ได้รับเป็นเช็คสั่งจ่ายเงิน แต่เมื่อนำเช็คไปขึ้นเงินปรากฏว่าไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะลายเซ็นต์ไม่ถูกต้อง ต่อมายังทราบว่าบัญชีดังกล่าวได้ถูกปิดไปแล้ว และยังมีพระอีกหลายรายการที่เช่าบูชากันตนก็ไม่ได้รับเงิน สำหรับสมาชิกในสมาคม อีกคนหนึ่งคือ นายอิทธิพล ก็เคยถูกหยิบยืมเงินและทรัพย์สินไปร่วมกว่า 2 ล้านบาท และเป็นหนึ่งในบุคคลที่เข้าแจ้งความดำเนินคดี และยังมีอีกหลายรายที่เสียหลายตั้งแต่หลักแสน และมากกว่า 3 ล้านบาทก็มี ยังไม่รวมผู้เสียหายรายย่อยจากทั่วประเทศที่เคยถูกหลอกซื้อขายพระ จากองค์จริงและได้รับเป็นพระเก๊ หรือพระที่ไม่ตรงกับภาพที่โชว์ บางรายไม่ได้รับพระที่บูชาไปแม้ว่าจะมีการโอนเงินมาให้ ขอเงินคืนก็ไม่ได้รับเงินคืนก็มีอีกจำนวนมาก ทำให้คนเหล่านี้มีการตั้งเฟซบุ๊กขึ้นมาเพื่อรวมกลุ่มคนถูกโกงขึ้นด้วยมีสมาชิกที่เสียหายตอนนี้ 38ราย
ในกลุ่มนี้ก็มีคนที่เสียหายตั้งแต่หลักพันบาทจนถึงหลักล้านบาท รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมดคาดว่าน่าจะไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ถือว่าทำให้วงการพระเครื่องเสียหายอย่างมาก ตนในฐานะประธานสมาคมได้รับเรื่องร้องเรียนจำนวนมากและไม่สามารถอยู่นิ่งเฉยได้ จึงได้เดินทางมาในวันนี้และตนก็จะเป็นคนหนึ่งที่ร่วมแจ้งความเพิ่มเติมในคดีด้วย
ขณะเดียวกันอยากฝากเตือนประชาชนที่จะเช่าบูชาพระเครื่อง ในปัจจุบันมีการเช่าบูชาทางออนไลน์กันเป็นจำนวนมาก อยากให้มีการสอบถามถึงแหล่งที่มาและตรวจสอบบุคคลที่เปิดให้เช่าบูชาให้แน่ชัดเสียก่อน เพื่อไม่ให้หลงเชื่อและเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ และหากใครที่เป็นผู้เสียหายในคดีนี้ก็สามารถนำหลักฐานมาแจ้งความเพิ่มเติมได้ที่ สภ.แม่โจ้ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่


ด้านนายสมรัก หรือ ตุ้ย กาดหลวง สารภาพว่า พยายามเคลียร์เงินให้ผู้เสียหายไปแล้วหลายราย และที่ผ่านมาตนเองก็ไม่ได้หลบหนีไปไหน แต่หลังถูกลูกค้ามาประจานในเพจเฟซบุ๊กทำให้ตนเองได้รับผลกระทบจนไม่สามารถขายพระเครื่องได้ ยืนยันว่า ตนเองส่งพระไปให้จริง หรือบางรายที่ไปขอเช่าพระ ก็โอนเงินไปให้แต่ลูกค้าก็ไม่โอนพระมาให้เช่นกัน จนตนเองไม่มีเงินทุนหมุนเวียน