เปิดใจผู้เข้าประกวดนางสาวไทย หลังประสบอุบัติเหตุสะพานแขวนขาด ร่วงตกน้ำนับ 10 คน เผยเป็นเหตุการณ์ไม่คาดคิด แต่ทุกคนก็ต้องไปต่อ ด้านผู้เข้าประกวด ดีกรีวิศวกรรมโยธา เผยได้ยินเสียงดังก่อนสะพานแขวนขาด เชื่อเป็นอุบัติเหตุ ส่วนครอบครัวให้กำลังใจ
หลังจากวานนี้ ( 7 ธ.ค.) เกิดอุบัติเหตุขึ้นกลางกองประกวดนางสาวไทย2563 ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางมาทำกิจกรรมเก็บตัวที่จังหวัดเชียงใหม่ และทำกิจกรรมถ่ายวีทีอาร์ อยู่ที่ปางเปาบีท คาเฟ่ แอนด์เรสเตอร์รองท์ ต.ขี้เหล็ก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ขณะที่ผู้เข้าประกวดทั้งสิ้น 30 คน กำลังยืนถ่ายภาพบนสะพานแขวนอยู่นั้น สะพานได้เกิดทรุดตัวขาดกระทันหัน ส่งผลให้สาวงามผู้เข้าประกวดกว่า 10 คนที่กำลังยืนโพสต์ท่าให้ช่างภาพถ่างภาพอยู่บนสะพานแขวนตกลงไปในน้ำ โชคดีที่ระดับน้ำไม่สูงมากนัก เจ้าหน้าที่และสตาฟกองประกวดได้ช่วยกันพยุงตัวเข้าประกวดขึ้นจากน้ำ บางคนถูกอุ้มขึ้นไปปฐมพยาบาล โดยมีรถพยาบาลของโรงพยาบาลเชียงใหม่ราม ที่มาสแตนบายอยู่ที่กองประกวดเข้าช่วยเหลือ และนำตัวผู้เข้าประกวดที่บาดเจ็บไปปฐมพยาบาล
จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีนางงามบาดเจ็บหลายราย ส่วนใหญ่ฟกชำตามร่างกาย แต่มี3 ราย ในมีแผลถลอก และ 1 รายมีบาดแผลบริเวณผาก
ล่าสุดเช้าวันนี้ ( 8 ธ.ค.) กองประกวดนางสาวเชียงใหม่ ได้พานางงามมาทำกิจกรรมที่ ไอเลิฟฟลาวเวอร์ฟาร์ม ต.เหมืองแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยสาวงามสวยใหญ่มีอาการบาดเจ็บดีขึ้น แต่ยังคงมีบางรายที่ ARM SLING เพื่อพยุงแขนบรรเทาอาการปวด
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 7 ธ.ค. 63 ดร.อดิศร สุดดี ผู้อำนวยการกองประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2563 ได้นำคณะนางสาวไทย จำนวน 30 คน เดินทางมาถ่ายทำวีทีอาร์ การเก็บตัวกองประกวดที่ปางเปาบีท คาเฟ่ แอนด์เรสเตอรองท์ ต.ขี้เหล็ก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ โดยมี นายวรพจน์ ฉัตรกาญจนะ อายุ 43 ปี เจ้าของปางเปาบีท รีสอร์ทพร้อมคณะให้การต้อนรับคณะ และนำพาไปเยี่ยมชมตามจุดต่างๆ เพื่อเตรียมจะถ่ายทำวีทีอาร์ ซึ่งช่วงที่เดินทางมาก็ได้มีการตรวจคัดกรองตามมาตรฐานการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด หลังจากที่มีการแนะนำสถานที่เรียบร้อยแล้ว คณะกองประกวดได้นำพาสาวงามเดินข้ามสะพาน ซึ่งทำด้วยเหล็ก โดยให้สาวงามถือแก้วน้ำที่และมาบันทึกภาพบนสะพาน ช่วงเวลาดังกล่าวได้เกิดเหตุการณ์สะพานเหล็กคาดว่าจะรับน้ำหนักไม่ไหว ได้ทรุดตัวลง ทำให้สาวงาม 30 คน ที่ยืนอยู่บนสะพานตกลงไปในน้ำ สร้างความแตกตื่นตกใจให้กับผู้สาวงาม และคณะผู้ควบคุมกองประกวด รวมถึงประชาชนที่มาเที่ยวและดูการทำวีทีอาร์ของผู้เข้าประกวด ทางเจ้าหน้าที่จึงได้รีบให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน พร้อมกับนำรถพยาบาลซึ่งติดตามกองประกวดมาด้วย รับสาวงามจำนวน 3 ราย ในจำนวนนี้มีแผลถลอก 2 ราย และมีบาดแผลบริเวณหน้าผาก 1 ราย
นางสาวชุติกาญจน์ เสียงจินดา หรือ น้องเกรซ ผู้เข้าประกวดนางสาวไทย อายุ 23 ปี ดีกรีนักศึกษาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยสงขลาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งได้รับบาดเจ็บที่แขนซ้าย เปิดใจเล่าวินาทีที่เกิดอุบัติเหตุใหัผู้สื่อข่าวฟังว่า ตอนที่เกิดเหตุอยู่บริเวณปลายแถวของสะพาน ใกล้กับเสาเหล็ก จังหวะที่เสาล้มลงมา เสาล้มถูกแขน แต่โชคด่ล้มใส่นาฬิกา นาฬิกาแตกทำให้ข้อมือไม่แตก ก็ยังมีความโชคดีอยู่แต่ก็รู้สึกช็อกกับเหตุกาาณ์ที่เกิดขึ้น
หลังเกิดเหตุพี่ๆกองประกวดและเจ้าหน้าที่ได้รับเข้ามาช่วยเหลือทันที และเจ้าหน้าที่รถพยาบาลที่ประจำอยู่กับกองประกวดก็เข้ามาช่วยเหลือปฐมพยาบาล หลังจากถูกนำตัวไปเอ็กซเรย์ก็ไม่มีกระดูกแตก ส่วนเพื่นนผู้เข้าประกวดคนอื่น ก็โชคดีมีแค่รอยฟกช้ำเท่านั้น ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหนัก
น้องเกรซ บอกว่า ช่วงก่อนเกิดอุบัติเหตุสะพานแขวนขาด ได้ยินเสียงเหล็กดังขึ้น ตนเองเรียนวิศวกรรมโยธาอยู่แล้ว ก็รู้แล้วว่าไม่ใช่เสียงเคาะ แต่เป็นเสียงของน็อตหลุด หรือ สะลิงขาด รู้สึกช็อคมากจากนั้นสะพานแขวนก็ขาดและทุกคนก็ร่วงลงไปทันที โดยหลังเกิดเหตุเพื่อนๆทุกคนตั้งสติทันและพยายามช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ครั้งแรกทางบ้านยังไม่ทราบ เพราะพ่อแม่ไม่ได้ดูข่าวกำลังดูละคร แต่เมื่อตนเองโทรศัพท์ไปบอกให้ทราบ แม่ก็ตกใจเล็กน้อย ตนเองจึงเล่าเหตุการณ์ให้ฟังและบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง ซึ่งแม่ก็ให้กำลังใจ ถือว่าโชคดีมากที่แม่ทราบข่าวจากปากก่อน จึงไม่เชื่อกระแสข่าวทางลบที่เกิดขึ้น
ส่วนนางสาวชนิภรณ์ ทรัพย์มี หรือ น้องอีฟ อายุ 22 ปี หนึ่งในผู้เข้าประกวดนางสาวไทย ดีกรีนักศึกษาคณะวารสารศาสตร์และสื่อสาวมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บอกว่า รู้สึกตกใจช่วงเกิดเหตุ แต่ทุกคนก็มีสติและช่วยเหลือกัน แม้มีคนบาดเจ็บบ้างแต่ก็ได้รับการช่วยเหลือทันที
เช่นเดียวกับนางสาวณิษฐกาณต์ อักษรวรรณ หรือน้องนิต้า บอกว่า ช่วงเกิดเหตุตนเดินไปเข้าห้องน้ำแต่ก็รู้สึกตกใจมาก เป็นเหตุการณ์ที่ม่ค่กคิดว่าจะเกิด แต่ทุกคนก็ตั้งสติได้ดี
ด้านนางสาวแพรววัชร ชมิด หรือ น้องกวาง อีกหนึ่งผู้เข้าประกวด กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุตนอยู่กลางสะพาน จึงไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่มีใครอยากให้เกิด ถือเป็นบทเรียนให้ทุกคนระมัดระวังตัวมากขึ้น และแม้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นแต่ทุกคนก็ต้องไปต่อ และขอให้ความมั่นใจว่า จังหวัดเชียงใหม่มีความปลอดภัย สถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม และโดยเฉพาะช่วงนี้แม้จะพบผูติดเชื้อไวรัสโควิด 19 แต่จังหวัดเชียงใหม่ ก็ปลอดภัยเพราะทุกสถานที่มีมาตรการคัดดกรองที่เข้มข้น