่-
ปลัดจอมแฉนำทีมลุยตรวจร้านอาหารแช่น้ำลำน้ำแม่สา บนถนนสายแม่ริม-สะเมิง หลังได้รับร้องเรียนว่ามีการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม พบมีการจำหน่ายอาหาร น้ำดื่มแพงเกินจริง นอกจากนี้ยังมีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ต่างประเทศไม่มีแสตมป์ด้วย ด้านพาณิชย์จังหวัดขู่ฟันหากไม่มีการปรับราคาโดยเฉพาะข้าวผัดที่มีราคาสูงเกินจะนำข้าวไปตรวจคุณภาพว่าสมราคาหรือไม่ ตักเตือนก่อนจะดำเนินคดีข้อหาหนัก
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 ธค.63
นายบุญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม พร้อมด้วยพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ เทศบาลตำบลแม่แรม สรรพสามิตจังหวัดเชียงใหม่ ลุยเข้าตรวจสอบ
ร้านอาหารริมน้ำและแช่น้ำลำน้ำแม่สา 6 ร้าน บนถนน แม่ริม-สะเมิง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
หลังได้รับร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวว่ามีการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มที่เกินราคา
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบร้านอาหารร้านแรก
พบว่ามีการจำหน่ายอาหารเกินราคาจริง อย่างเช่นข้าวผัดหมูจานใหญ่จานละ 199 บาท ข้าวผัดทะเล จานใหญ่จานละ 269 บาท รวมไปถึงน้ำดื่มขวดเล็กและขวดใหญ่ในราคาขวด 15 บาทและ 30 บาท ขณะเดียวกันยังพบว่ามีการจำหน่ายบุหรี่ต่างประเทศที่ไม่มีอากรณ์แสตมป์จำนวน 6 ซองด้วยทางหน้าที่สรรพสามิตจึงได้เปรียบเทียบปรับ 8,000 บาท
ขณะที่ร้านที่สองซึ่งอยู่ใกล้ๆกันนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ขอสุ่มตรวจน้ำดื่ม เหมือนกันพบมีการจำหน่ายในราคาเดียวกันและ
ข้าวผัดไข่ จานเล็ก 40 บาท จานใหญ่ 140 บาท ข้าวสวยจาน 15 บาท โถละ 60 บาท โดยร้านดังกล่าวมีนักท่องเที่ยวมารับประทานอาหารจำนวนมากและมีการสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปดื่มกินแต่ทางร้านไม่มีใบอนุญาติจำหน่ายสุราเจ้าหน้าที่จึงทำการเปรียบเทียบปรับ 5,000 บาท
ขณะที่ๆร้านอื่นก็เช่นกันมีการจำหน่ายอาหารแต่ละอย่างแพงแตกต่างกันไปบางร้านมีการจำหน่ายส้มตำจานละ 150 บาท ปลาเผาตัวละ 300-350 บาท
ซึ่งถือว่าเป็นการจำหน่ายที่เกินราคาจริง ซึ่งถ้าเทียบกับร้านค้าทั่วไป และไม่มีใบอนุญาติจำหน่ายสุราเช่นกันเจ้าหน้าที่จึงได้เปรียบเทียบปรับ5,000 บาทอีกสามร้านที่อยู่ละแวกเดียวกัน
นายบุญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม เปิดเผยว่าการลงตรวจสอบร้านอาหารครั้งนี้สืบเนื่องจากทางนายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้รับหนังสือร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ว่าขอให้ตรวจสอบร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ริมถนนแม่ริม สะเมิง ริมน้ำได้จำหน่ายส้มตำในราคาแพงจานละ 150 บาท จึงลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อหาข้อเท็จจริงจากการลงพื้นที่ก็พบว่ามีหลายร้านได้จำหน่ายอาหารเกินจริงมากซึ่งจะส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่และสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีดังนั้นจึงต้องมีการว่ากล่าวตักเตือนและให้ทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบต่อไปอีกรอบหนึ่งว่าเจ้าของร้านนปฏิบัติตามหรือไม่
ด้านนางภูษศณิศ ไชยมณี ผู้อำนวยการ กลุ่มกำกับการและพัฒนาเศรษฐกิจการค้าสำนักพางานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบแต่ละร้านนั้นจะมีการขายน้ำดื่มแพงทุกร้านและอาหารด้วยดังนั้นเพื่อเป็นการไม่ให้เอาเปรียบผู้บริโภคทางเจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือให้มีการปรับราคาอาหารและน้ำดื่มลง
ซึ่งถ้าหากเจ้าของร้านยังไม่ปรับหากทางเจ้าหน้าที่เข้าตรวจอีกครั้งก็จะมีความผิดตาม พรบ. ว่าด้วยราคาสินค้า และบริการ 2542 ซึ่งใช้ควบคุมการประกอบกิจการของผู้ประกอบการทุกประเภท
ซึ่งผู้จำหน่ายต้องมีการแสดงราคาให้ผู้บริโภคซื้อ ซึ่งถ้าหากว่าทางร้านยังมีการฝ่าฝืนจำหน่ายอาหารราคาแพง นั้นทางเจ้าหน้าที่ก็จะมีการดำเนินคดี ตาม
มาตรา 28 แห่ง พรบ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ จะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือปิดป้ายจำหน่ายแล้วไม่ตรงกับป้ายที่ปิด
ส่วนอีกแบบคือจงทำใจทำให้ราคาสูงหรือต่ำเกินสมควร ก็จะผิด มาตรา 29 จะมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท
